วันนี้ 26 ส.ค. นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) วันศุกร์นี้ (27 ส.ค.64) เพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้ร้านอาหารเปิดบริการได้ โดยเสนอแผนเปิดกิจการ 3 ระยะ ในเดือนกันยายน หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 มีแนวโน้มเริ่มดีขึ้น พร้อมกำหนดข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้รับบริการ ซึ่งในระยะแรกจะเน้นในร้านอาหารที่เป็นห้องปรับอากาศ และห้างสรรพสินค้า เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย คาดว่า จะสามารถเปิดให้นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ประมาณ 50% รวมถึงสถานประกอบการกลางแจ้งด้วย
สำหรับข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยมีดังนี้
1.จัดการสิ่งแวดล้อมไม่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เช่น เว้นระยะห่าง ไม่แออัด อากาศถ่ายเทได้ดี
2.พนักงานต้องปลอดโรค ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ถ้าไม่ได้ฉีดหรือฉีดไม่ครบ
ต้องตรวจเชื้อด้วยชุด ATK ทุก 3-7 วัน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันในการให้บริการลูกค้า
3.ลูกค้าต้องปลอดโรค เช่น แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน
อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน(25 ส.ค.64)ช่วงหนี่งว่า ในวันพรุ่งนี้(26 ส.ค.64) จะมีการประชุมเพื่อจะนำไปสู่การประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันศุกร์ที่ 27 ส.ค. เวลา 09.00 น. ศบค.ชุดเล็ก จะมีการทบทวนมาตรการในเรื่องการกำหนดมาตรการการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ
ผู้ช่วยโฆษก กล่าวว่า การติดเชื้อในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในเขตสุขภาพเขต 7 เขต 8 เขต 9 และ เขต 10 ส่วนมากอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อในแต่ละจังหวัดสูง เนื่องจาก เป็นการเดินทางข้ามพื้นที่จากพื้นที่ควบคุมและเข้มงวดสูงสุด ทำให้เพิ่มปริมาณการติดเชื้อและอัตราการเสียชีวิตในแต่ละจังหวัด ขอให้แต่ละจังหวัดใช้มาตรการติดตาม คัดกรอง และให้คนที่มาจากพื้นที่เสี่ยงกักตัว เน้นย้ำ หลักการครอบจักรวาลที่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้ติดเชื้อและนำเชื้อมาแพร่ให้ได้ แต่ขออย่ามีอคติ ขอให้ระมัดระวังตัว.