ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังความต้องการใช้น้ำมันสหรัฐฯพุ่ง

26 ส.ค. 2564 | 01:35 น.

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังความต้องการใช้น้ำมันสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 26 สิงหาคม 2564

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังความต้องการใช้น้ำมันสหรัฐฯพุ่ง

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 21.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 63 ที่สหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19

+ นอกจากนี้ EIA ยังรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ส.ค. 64 ปรับตัวลดลงกว่า 3.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 432.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ ม.ค. 63 และยังลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลงราว 2.7 ล้านบาร์เรล

+ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในประเทศจีนมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยสาธารณสุขจีนรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่ลดลงเหลือเพียง 20 รายเท่านั้น ในวันที่ 24 ส.ค. หลังจีนมีการยกระดับการตรวจเชิงรุกที่เข้มข้นเพื่อไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเล็ดลอดออกไปได้ รวมถึงมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงประมาณ 0.99 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลตึงตัวจากการปรับลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลยังคงถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขานรับตัวเลขชสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 68.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.2564

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 72.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.2564