ทวี สอดส่อง ฉะ อภ.เป็นผู้แทนขายให้บริษัทผู้ผลิตซิโนแวคอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย

22 ส.ค. 2564 | 06:51 น.

"ทวี สอดส่อง" ชี้ว่า องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้แทนการขายให้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิดซิโนแวค อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายเเละอาจเป็นการคอร์รัปชันบนความตายของประชาชน

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวถึงประเด็นที่ “องค์การเภสัชกรรม” เป็นผู้แทนการขายให้บริษัทผู้ผลิต “วัคซีนซิโนแวค” อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมายและจริยธรรม

โดยระบุว่า ผู้แทนการขายวัคซีนซิโนแวกคือองค์การเภสัชกรรม การที่เป็นผู้แทนการขายให้บริษัทต่างชาติที่เป็นเอกชนจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง กระทรวงสาธารณสุขมีกฎหมายและอำนาจหน้าที่แม้แต่งบประมาณที่ขอไปก็นำไปให้กระทรวงสาธารณสุขแต่พอบริหารงานโครงสร้างหน้าที่ตามกฏหมายอำนาจการอนุมัติที่อยู่กับ อธิบดี ปลัดกระทรวง ถูกรวบไปอยู่กับ ศบค. ใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน อาจจะเป็นการทุจริตเพราะคอรัปชั่นบนความตายของประชาชน

ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ตนจะตัดงบของกระทรวงสาธารณ แม้จะเป็นส่วนน้อยแต่พบคลื่นใต้น้ำหรือความไม่ชอบมาพากลในระบบสาธารณสุขและที่สำคัญ ถ้าเจาะลึกไปอาจจะเป็นเรื่องการทุจริตคอรัปชันบนความตายของประชาชน

“เมื่อดูเรื่องวัคซีนกระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่าในปี 2564 อีกประมาณไตรมาสสุดท้ายจะหาวัคซีนให้ได้ 105,000,000 โดส ปรากฏว่ามาถึงวันนี้เพิ่งได้ 20 กว่าล้านโดส ยังขาดอีก 80 กว่าล้านโดส มีการระบุไว้ในการของบประมาณว่าจะขอจัดซื้อวัคซีนให้ได้ แต่พอถามลึกลงไปว่าวัคซีนที่จะจัดซื้อตามที่เป็นข่าวปรากฏว่า แอสตร้าเซนเนก้าในราคาโดสละ 5  เหรียญ ซิโนแวกโดสละ 17 เหรียญ สำหรับสำหรับล็อตหลังโดสละ 15 เหรียญ ถามว่าใครเป็นตัวแทนในการขายปรากฏว่าบริษัทที่ขายทุกบริษัทจะมีผู้แทนการขาย สำหรับซิโนแวคองค์การเภสัชรับเป็นผู้แทนการขาย ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนบอกว่าผู้แทนการขายซีโนแวคคือ องค์การเภสัชองค์การเภสั ชเป็นองค์กรที่เกิดโดยกฎหมายและเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ต้องหาวัคซีน หายา ไม่มีหน้าที่เป็นตัวแทนอื่นและที่สำคัญก็คือจะต้องรักษาประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนการที่ตัวเองเป็นผู้แทนการขายให้บริษัทต่างชาติที่เป็นเอกชนจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง”

พันตำรวจเอกทวี กล่าวอีกว่าในมาตรา 25 กระทรวงสาธารณสุขตนได้สงวนความเห็นขอปรับลด 0.2% เป็นเงินประมาณ 75 ล้านบาท เพราะเหตุเป็นการปรับลด เรื่องการไปซื้อรถประจำตำแหน่งหรือการฝึกอบรมที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องสาธารณสุข

“วันนี้กระทรวงสาธารณสุขเป็นกระทรวงที่มีความสำคัญที่สุดในการจะป้องกันประชาชนที่ถูกโจมตีโดยเชื้อโรคโควิดและก็มีการเสียชีวิต การติดเชื้อจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุขได้บอกว่าสิ่งหนึ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งก็คือ การจัดหาวัคซีนมาป้องกันโควิด แต่เมื่อลงไปดูในงบประมาณเรื่องวัคซีน สิ่งที่รู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นไปตามที่ระบุไว้ก็คือพบว่าสถาบันวัคซีนแห่งชาติซึ่งน่าจะสถาบันตรงที่ได้รับงบประมาณ ซึ่งปีนี้ได้ 22 ล้านบาทน้อยกว่าปีที่แล้วที่ได้ 23 ล้านบาท วันนี้การตายของประชาชนผู้ติดเชื้อทะลุ 1,000,000 เเละไม่มีทีท่าว่าจะลดลง กระทรวงสาธารณสุข แม้แต่รัฐบาลไม่คำนึงถึงคมคนตาย”

พันตำรวจเอกทวี ยังกล่าวด้วยว่า การที่กระทรวงสาธารณสุขที่ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อรับฟังจากที่ปรึกษาซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นอดีตคนที่เคยทำผลประโยชน์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอดีตคนที่เคยเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นหมอในยุคที่เคยรับราชการ ยังไม่มีโควิดเกิดขึ้น ไม่มีใครเคยป้องกันโควิด ไม่เคยซื้อวัคซีนโควิดสักโดส

“วันนี้แพทย์พยาบาลที่อยู่ด่านหน้ากำลังเผชิญกับความเสี่ยงหลายคน ทำไมนายกรัฐมนตรี ทำไมกระทรวงสาธารณสุข คนที่อยู่ในโครงสร้างอำนาจหน้าที่ ไม่คำนึงถึงคนเสียชีวิต และการรอคอยการป้องกัน ผมถือว่าเป็นความล้มเหลว ไม่มีใครรู้เรื่องกระทรวง ไม่มีใครรู้เรื่องการรักษาพยาบาลดีเท่ากระทรวงสาธารณสุข นายกรัฐมนตรีก็มาจากทหาร จะให้กำลังทหารทำทุกอย่างแม้แต่การรักษาโรคคงจะไม่ใช่”