ผู้ป่วยโควิดพุ่ง!สมาคมอสังหาริมทรัพย์ รวมพลัง ตั้งศูนย์พักคอย ราษฎร์บูรณะ

15 ส.ค. 2564 | 02:50 น.

สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ร่วมกับเครือข่ายอสังหาริมทรัพย์ไทย เอกชนจับมือเข้มแข็ง รวมพลังร่วมตั้งศูนย์พักคอยเขตราษฎร์บูรณะ ร่วมสกัดวงจรการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

 

สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ผนึกกำลังกับเครือข่ายอสังหาริมทรัพย์ไทย จัดตั้ง  “ศูนย์พักคอยเขตราษฏร์บูรณะ (Community Isolation Center)”  โดยได้รับความเอื้อเฟื้อด้านสถานที่จาก บริษัทศรีไทยชุปเปอร์แวร์ จำกัด(มหาชน)  ร่วมสนับสนุน

 

โดย โรงพยาบาลประชาพัฒน์, มหาวิทยาลัยมหิดล คณะสาธารณสุขศาสตร์, ย่านนวัตกรรม การแพทย์โยธี (YMID) ในการเพิ่มเตียงช่วยเหลือผู้ป่วยโควดิ19 ให้เข้าถึงการรักษากว่า 200 เตียง เพื่อจะลดวงจรการระบาดลง พันธกิจนี้ภาคเอกชนจะยังคงเดินหน้าเพื่อขยายเตียงรักษา ผู้ป่วยโควิด ให้มีความหวัง และพลังใจ 

 

นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย  เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ยังคงต้องอยู่กับ สถานการณ์นี้อีกนาน เนื่องจากสายพันธุ์โควิด-19 ยังมีการพัฒนาตัวเองอยู่ ขณะที่การฉีดวัคซีนยังไม่สามารถฉีดให้ครอบคลุม ประชากรได้ตามที่รัฐกำหนด วัคซีนได้มาบ้างไม่ได้บ้าง ตัวเลขการล็อกดาวน์ยังไม่ดีขึ้น และอาจจะล็อกไม่ได้แบบประเทศจีนที่สามารถสั่งหยุดแล้ว หยุดได้ เพราะฉะนั้นคนไทยยังต้องอยู่กับสถานการณ์นี้อีกนาน

ผู้ป่วยโควิดพุ่ง!สมาคมอสังหาริมทรัพย์ รวมพลัง ตั้งศูนย์พักคอย ราษฎร์บูรณะ

ประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนยังไม่ได้ตาม เป้าหมาย ต้องคอยติดตามจำนวนวัคซีนที่จะทะลักเข้ามาในอีก 1-2 เดือนนี้ และสามารถฉีดได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้น ทุกคนจึง ต้องปรับตัวที่จะอยู่กับโควิด-19 ให้ได้ ซึ่งหากรัฐบาลจะใช้มาตรการล็อกดาวน์ยาวจนกระทั่งสถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่อยเปิดคงจะ ไม่ได้ 

จากสถานการณ์ดังกล่าว สมาคมฯ ได้มีการประสานงานกับฝ่ายต่างๆ และหน่วยงานราชการอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก่อนหน้า นี้มีการติดเชื้อในชุมชนแพร่กระจายมากขึ้น ทางสมาคมฯ ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือในชุมชนต่างๆ  ต่อมาขยายวงอออกไปยัง แคมป์แรงงานก่อสร้าง สมาคมฯ จึงมีแนวคิดจะตั้งศูนย์พักคอย โดยประสานหาสถานที่ต่างๆ ทั้งที่ดินของสำนักงานทรัพย์สิน    การรถไฟ ท่าเรือ ที่ดินราชพัสดุ  หลังจากนั้น มีการประสานจากโรงพยาบาลประชาพัฒน์ ว่า

ยังมีกำลังที่พอจะช่วยดูแลผู้ป่วยใน ศูนย์พักคอยได้หรือไม่ เนื่องจากทาง รพ. ก็มีจำนวนเตียงไม่มากพอ ขณะที่ยังมีผู้ป่วยจำนวนมากมานอนรอเตียงหน้าโรงพยาบาล    ทาง รพ. จึงมีความต้องการจัดการแยกผู้ป่วยสีเขียว เหลือง ออกจากกัน โดยการนำผู้ป่วยสีเขียวไปอยู่ด้านนอก แล้วส่งเฉพาะ ผู้ป่วยสีแดงเข้าสู่ รพ. ซึ่งจะทำให้บริหารจัดการได้ดีขึ้น  ประกอบกับทางสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะได้รับนโยบายจากผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร

ให้แต่ละเขตจัดตั้งศูนย์พักคอย จึงทำให้เกิดความร่วมมือนี้ขึ้น สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยมีผม นายอดิเรก แสงใสแก้ว อุปนายกและเลขาธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย  ดร.วรพจน์ กันตพิพัฒน์  อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย  จึงได้ทุ่มกำลังในการเนรมิตโกดังเก่าของ บมจ. ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ บนถนนราษฎร์บูรณะขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้มาก ที่สุด

ในส่วนของภาคเอกชนที่เข้าร่วมดำเนินการปรับปรุงโกดังเก่า โดยประสานหาพันธมิตรมีความเชี่ยวชาญทางด้านการก่อสร้าง เข้ามาดำเนินการปรับปรุง สร้างห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย สร้างห้องความดันลบ ปรับปรุงระบบไฟฟ้า ประปา        โดยได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากภาคส่วนต่าง ๆ 

 หากสถานการณ์ตัวเลขผู้ป่วยยังอยู่ในหลักหมื่น สักระยะหนึ่งผู้ป่วยจะกลายเป็นสีเขียว เหลือง และแดงเพิ่มมากขึ้น จาก การแพร่เชื้อสู่ครอบครัวและชุมชน จึงทำให้ศูนย์นี้เตรียมความพร้อมสู่การยกระดับเป็น รพ. สนามต่อไปในอนาคต โดยปัจจุบัน ศูนย์พักคอยนี้ใช้สำหรับรองรับผู้ป่วยสีเขียว และในเฟสสอง อาจจะมีการเพิ่มเตียงจากจำนวน 200 เตียง เป็น 400 เตียง

“เราคาดหวังว่าจะสามารถช่วยคนได้หลายพันคนไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่ม การทำศูนย์พักคอยไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเตรียมแบบก่อสร้างที่ถูกต้องตามหลักสาธารณสุข การบำบัดน้ำเสีย ถือเป็นความร่วมมือที่ดีมากจากหลายภาค ส่วนจนประสบความสำเร็จ”  นายพรนริศ กล่าว 

ในโอกาสนี้ อยากจะเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้คนในช่วงที่ลำบาก ทุกคนต้อง คิดถึงผู้อื่น เอื้อเฟื้อต่อผู้ที่กำลังทุกข์ร้อน ทั้งนี้ ภาระกิจยังต้องดำเนินต่อเนื่องไปอีกช่วงเวลาหนึ่ง สมาคมอสังหาฯ ใคร่ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมส่งต่อพลัง สนับสนุนการบริจาค เตียงละ 20,000 บาท หรือ ตามกำลังศรัทธา

เพื่อการจัดซื้อ อุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ ตลอดจนสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด แล้วเราจะผ่าน พ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน  ชื่อบัญชี "สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย" ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เลขบัญชี 889-2-19372-5 ส่งสลิปเพ่อืออกหนังสือขอบคุณได้ที่ Line@trea #ศูนย์พักคอยเขตราษฎร์บูรณะ #@trea

ด้านนายแพทย์ณัฐวุฒิ แหวนหล่อ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลประชาพัฒน์ เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19      ในปัจจุบัน ภาพรวมของประเทศและในกรุงเทพมหานคร จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะมีปัญหาในการ เข้าถึงกระบวนการรักษา ทั้งเรื่องของจำนวนเตยีงในโรงพยาบาลที่ไม่เพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วยได้ กลุ่มที่รอเตียงเข้าถึงกระบวนการ รักษาและยารักษาได้ค่อนข้างยาก ทางโรงพยาบาลประชาพัฒน์มีจำนวนผู้ป่วยที่รอเตียงอยู่มากพอสมควร จึงเป็นที่มาของ โครงการจัดตั้ง “ศูนย์พักคอยเขตราษฎร์บูรณะ” 

สำหรับนโยบายของภาครัฐ กระบวนการ Home Isolation นั้นถือว่าดี แต่ในทางปฏิบัติค่อนข้างทำได้ยาก ด้วยเหตุผล ที่ว่าลักษณะที่อยู่อาศัยในชุมชน ผู้ป่วยที่ไม่เอื้อต่อการแยกกักตัว ดังนั้น การเอาผู้ป่วยกลุ่มนี้ออกมากักตัวรวมกนัในที่ๆ จัดไว้พร้อม ทั้งได้รับการดูแลทางการแพทย์จะดีกว่าในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในชุมชน

ทาง รพ.มีความพร้อมในการรองรับผู้ปว่ย โควิดอยู่แล้ว แต่จะมีปัญหาในแง่ของผู้ป่วยเคสสีเขียวที่ในความเป็นจริงสามารถอยู่ที่บ้านได้ หรือมากักตัวในสถานที่ชุมชนจัดไว้ แต่เนื่องจากผู้ป่วยในระบบมีจำนวนมาก ทาง รพ. จึงอยากนำผู้ป่วยเคสสีเขียวออกมาดูแลข้างนอก ซึ่งการแยกผู้ป่วยเคสสีเขียว ออกมายังศูนย์พักคอยเขตราษฎร์บูรณะ เพื่อให้ รพ. มีขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยเคสสีเหลือง และส้มได้มากขึ้น 

ศูนย์พักคอยเขตราษฎร์บูรณะ ตั้งอยู่ห่างจาก รพ. ประชาพัฒน์ ประมาณ 3 กิโลเมตร จึงง่ายต่อการรับส่งต่อผู้ป่วยที่อาการหนัก มายัง รพ. ได้ โดยศูนย์พักคอยเขตราษฎร์บูรณะมีจำนวน 200 เตียง ซึ่งในอนาคตขึ้นอยู่กับสถานการณ์อาจยกระดับเป็น รพ. สนาม

โดยการให้บริการของศูนย์พักคอยเขตราษฎร์บูรณะ จะเน้นการดูแลผู้ป่วยเคสสีเขียวที่พบเชื้อแล้ว ต้องไม่มีข้อห้ามในการ เข้าศูนย์ต่าง ๆ  การติดต่อรับผู้ป่วยจะรับเคสที่มาจากสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ และสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ ผู้ป่วยจะเข้า มาที่ศูนย์พักคอยโดยตรงไม่ได้ จะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองเชื้อ ผ่านการดูแลเบื้องต้นต่าง ๆ ก่อน ในการนี้ ทาง รพ.จะเน้นหนักเรื่องการประเมินผู้ป่วยว่าสามารถที่จะเข้าศูนย์ได้ จึงจะคัดกรองส่งมายังศูนย์พักคอยเขตราษฎร์บูรณะ   

     ในปัจจุบันมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคสิ่งต่าง ๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่ยังต้องการอยู่ คือ อุปกรณ์ที่ใช้สอยในตัวศูนย์ อาทิ พัดลมคนไข้ ผ้าปูที่นอน หมอน มุ้ง อาหาร และอุปกรณ์ที่ใช้ดูแลผู้ป่วย อาทิ ถุงขยะสีแดงจำนวนมาก อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชุดป้องกัน PPE หน้ากาก N95 ถุงมือ ซึ่งสามารถบริจาคได้ที่ศูนย์พักคอยเขตราษฎร์บูรณะ โรงพยาบาลประชาพัฒน์ และช่องทาง ที่กำหนดไว้

อย่างไรก็ตาม อยากให้ภาครัฐผ่อนเกณฑ์ต่าง ๆ ทั้งการตรวจหาเชื้อจะมีปัญหาเวลารับผู้ป่วยเข้าศูนย์ อยากรับผู้ป่วยที่ มีการยืนยันผลเป็นบวก  และการตรวจโดยใช้ชุดตรวจ Antigen test kit (ATK) ที่บ้านแล้วมีผลเป็นบวก แต่ยังเข้าสู่ ระบบการรักษาไม่ได้ เพราะต้องไปตรวจยืนยันผล RT-PCR อีกที จะทำให้ระยะเวลาที่ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลรักษายิ่งชา้ ออกไปมากกว่าเดิม ซึ่งอาจส่งผลถึงสุขภาพตลอดจนชีวิตของผู้ป่วยได้