www.sso.go.th เปิดแถบเมนูเพิ่มให้นายจ้างดาวน์โหลดหนังสือมอบอำนาจมาตรา33

จากกรณีที่ คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มอีกจำนวน 3 จังหวัด รวมเป็น 13 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่เชื้อโควิด 19 ระลอกเดือนเมษายน  โดยผู้ประกันตนนายจ้างและลูกจ้าง ยื่นเงื่อนไขเพื่อรับเงินเยียวยาล่าสุด ลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ที่ www.sso.go.th 

ความคืบหน้าล่าสุดในเว็บไซต์ www.sso.go.th  ได้เปิดแถบเมนูเพิ่มอีก 1 เมนู จากเดิมที่มีเพียง 2 เมนู ดังนี้

ท่านสามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33

ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ใน 9 ประเภทกิจการ

1. ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาฯ (ผู้ประกันตนมาตรา 33) คลิก

2. ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาฯ (นายจ้าง) คลิก

3. แถบเมนูที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ คือ ดาวน์โหลด หนังสือมอบอำนาจกรณีนายจ้างขอรับเงินโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33   คลิก

 เมื่อเร็วๆ นี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ได้แก่

• กรุงเทพมหานคร
• นครปฐม
• นนทบุรี
• ปทุมธานี
• สมุทรปราการ
• สมุทรสาคร
• นราธิวาส
• ปัตตานี
• ยะลา
• สงขลา

 9 ประเภทกิจการ ได้แก่

• กิจการก่อสร้าง
• กิจการที่พักแรมบริการด้านอาหาร
• กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ
• กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ
• สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
• สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์
• สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน
• สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ
• สาขาข้อมูลข่าวสาร และการสื่อสาร 

โดยกระทรวงแรงงานเร่งรัดขยับเวลาการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนไม่ให้เกินวันที่ 6 สิงหาคม โดยจะเริ่มทยอยจ่ายตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคมนี้ ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะระบบการโอนผ่านพร้อมเพย์สามารถดำเนินการได้วันละ 1 ล้านบัญชีเท่านั้น โดยผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยามีจำนวน 2.87 ล้านคน จะต้องใช้เวลาถึง 3 วันจึงได้สามารถโอนได้ครบภายในกำหนดเวลาวันที่ 6 สิงหาคม ตามเจตนารมณ์ ของนายกรัฐมนตรี และจะทยอยโอนครั้งต่อไปให้กับนายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุก ๆ วันศุกร์ จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2564

ล่าสุด นายสุชาติ ได้สั่งการจ่ายเงินเยียวยานายจ้าง ลูกจ้าง มาตรา33 ในพื้นที่ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา มีผู้ประกันตนได้รับสิทธิจำนวน 272,746 คน นายจ้าง 19,213 ราย ใช้วงเงินทั้งสิ้น 1,522 ล้านบาท แยกเป็น นายจ้าง 841 ล้านบาท และลูกจ้าง 681 ล้านบาท โดยจะโอนเงินในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ ให้ลูกจ้างผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น ส่วนนายจ้างบุคคลธรรมดา จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนเช่นกัน และนายจ้างสถานะนิติบุคคล จะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อนิติบุคคลนายจ้าง ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาได้ที่ https://www.sso.go.th หรือโทรศัพท์ สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ นางสาวลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวเสริมว่า  วิธีการจ่ายเงินเยียวยาสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับเยียวยาจากรัฐบาลคนละ 2,500 บาท จะโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ เลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น ส่วนนายจ้างจะได้รับการเยียวยา จากรัฐบาล ตามจำนวนลูกจ้าง หัวละ 3,000 บาท สูงสุดลูกจ้างไม่เกิน 200 คน โดยนายจ้างบุคคลธรรมดา จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ เลขประจำตัวประชาชนเช่นกัน และนายจ้างสถานะนิติบุคคล จะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามที่แจ้งไว้กับสำนักงานประกันสังคม

รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และนายจ้างที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 3 จังหวัดที่เหลือ ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา นั้น สำนักงานประกันสังคมจะประชาสัมพันธ์วันจ่ายเงินให้ทราบในภายหลัง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง

หมายเหตุ : ล่าสุด ศบค. ได้เพิ่มพื้นที่สี่แดงเข้มเพิ่มเติมอีก16 จังหวัด ดังนี้

• กาญจนบุรี
• ตาก
• นครราชสีมา
• นราธิวาส
• ประจวบคีรีขันธ์
•  ปราจีนบุรี
• เพชรบุรี
• เพชรบูณ์
• ระยอง
• ราชบุรี
•  ลพบุรี
• สิงห์บุรี
•  สมุทรสงคราม
•  สระบุรี
• สุพรรณบุรี
• อ่างทอง

โดย ศบค. ขยายล็อกดาวน์ต่อเนื่องอีก 1 เดือน นับจากครบกำหนดระยะแรกในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ 

ที่มา: สำนักงานประกันสังคม