กรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบมลพิษโรงงานหมิงตี้ เร่งกำจัดสารเคมีตกค้าง

08 ก.ค. 2564 | 10:19 น.

กรมควบคุมมลพิษ เก็บข้อมูล ประเมินเขตปลอดภัย และความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม กรณีเพลิงไหม้โรงงาน บริษัท หมิงตี้ พบสถานการณ์มลพิษในพื้นที่ดีขึ้น ส่วนสารเคมีและกากของเสียอันตรายที่ตกค้าง เร่งหาแนวทางการจัดการ บำบัด และขนย้ายออกไปกำจัดอย่างถูกวิธี

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมกรณีเพลิงไหม้โรงงาน บริษัท หมิงตี้เคมิคอล จำกัด และได้ประสานข้อมูลรายวันให้กับศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสมุทรปราการ วันนี้ ( 8 ก.ค.64) คพ.ได้ประสานสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 5 (นครปฐม) และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 6 (นนทบุรี) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ คพ. ในการประชุมหารือเพื่อสรุปความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมหลังเพลิงไหม้โรงงานดังกล่าว จากผลการตรวจสอบพบว่าสถานการณ์มลพิษในพื้นที่ดีขึ้นตามลำดับ เหลือเพียงการตรวจสอบสารเคมีและกากของเสียอันตรายที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่โรงงาน เพื่อหาแนวทางการจัดการ บำบัดและขนย้ายออกไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการต่อไป 
          
สถานการณ์คุณภาพอากาศในวันนี้ ( 8 ก.ค.64) ในรัศมี 1-2 กิโลเมตรดีขึ้น อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เหลือเพียงพื้นที่ในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบพื้นที่โรงงานที่ต้องมีการตรวจสอบและเฝ้าระวังอยู่ต่อไป โดยที่ประชุมได้กำหนดแผนและแบ่งสายงานการติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมต่อเนื่องจากวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 อาทิ การตรวจสอบน้ำที่ปนเปื้อนจากการดับเพลิงในพื้นที่โรงงาน การตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณที่เกิดเหตุและชุมชนโดยรอบในรัศมี 0.5, 1 และ 2 กิโลเมตร และเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินในชุมชนโดยรอบ ทั้งนี้ ข้อมูลผลการวิเคราะห์ทั้งหมดจะนำมาประมวลผลเพื่อประเมินความเสี่ยงและความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งพิจารณาหาแนวทางในการจัดการเพื่อลดปัญหามลพิษและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมต่อไป

กรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบมลพิษโรงงานหมิงตี้ เร่งกำจัดสารเคมีตกค้าง

กรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบมลพิษโรงงานหมิงตี้ เร่งกำจัดสารเคมีตกค้าง

การดำเนินงานในครั้งนี้มีหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วม อาทิ จังหวัดสมุทรปราการ กองบัญชาการกองทัพไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และบริษัทในกลุ่ม พีทีที  โกลบอล เคมิคอล จำกัด  (มหาชน) บริษัท NPC จำกัด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ NPC ยังคงเฝ้าระวังเกี่ยวกับการเติมสาร DEHA ที่จะไปช่วยยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาโพลิเมอร์ไรเซชั่น และสาร F500 ที่จะช่วยป้องกันการลุกติดไฟของสารสไตรีนที่รั่วไหล พร้อมทั้งตรวจสอบอุณหภูมิของถังตลอดเวลา 


 

กรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบมลพิษโรงงานหมิงตี้ เร่งกำจัดสารเคมีตกค้าง

ทีม คพ.และเจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ได้ร่วมกันประเมินปริมาณความเข้มข้นของสารสไตรีนและฟอร์มัลดีไฮด์ที่ตกค้าง ในส่วนของการสื่อสารกับประชาชน คพ.ได้จัดทำอินโฟกราฟิกให้ความรู้ในเรื่องการข้อควรปฏิบัติสำหรับประชาชนเมื่อกลับเข้าที่พักอาศัยหลังเกิดเพลิงไหม้ และคำแนะนำการใช้น้ำรอบพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งน้ำฝน น้ำคลอง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสและนำน้ำฝนมาใช้ในการอุปโภคบริโภคในช่วงนี้ ส่วนน้ำประปา สามารถใช้ในการอุปโภคบริโภคได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้ ประชาชนที่มีการรองน้ำประปาใส่ภาชนะไว้ ให้มีฝาปิดมิดชิดเพื่อป้องกันการปนเปื้อน