ปรับเพิ่ม “รางวัลนำจับ” คดียาเสพติด จากเดิมได้ 25% เป็น 50% 

08 ก.ค. 2564 | 03:30 น.

เปิดกฎหมายใหม่ ครม.เคาะผ่านระเบียบสำนักนายกฯ จ่ายส่วนแบ่งค่าตอบแทน "รางวัลนำจับ" ให้เจ้าหน้าที่ 50% แจ้งความ นำจับ-ช่วยจับยาเสพติด จากเดิมให้แค่ 25% แต่คดีต้องสิ้นสุดจนมีการยึดทรัพย์ของป.ป.ส.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันอังคารที่ 6 ก.ค. 64 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)  มีมติเห็นชอบในหลักการร่างกฎหมายฉบับใหม่เกี่ยวกับการปรับเพิ่ม "รางวัลนำจับ" คือ “ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....” 

ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้

ทั้งนี้ในที่ประชุมครม. กระทรวงยุติธรรม เสนอว่า

1. โดยที่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีบทบัญญัติบางประการที่ทำให้การดำเนินมาตรการปราบปรามยาเสพติดยังไม่มีประสิทธิภาพ

เป็นช่องทางทำให้เกิดการทุจริตในการนำยาเสพติดมาจำหน่ายโดยไม่มีผู้ซื้อจริง (Demand เทียม) เพื่อหวังเงินค่าตอบแทน โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้มุ่งเน้นให้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลไปยังเจ้าของยาเสพติด เครือข่ายผู้เป็นนายทุน หรือผู้สั่งการที่อยู่เบื้องหลัง 

จึงเห็นควรแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานยาเสพติดกรณียึดได้แต่ยาเสพติด และระยะเวลาการยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทนในกรณีดังกล่าว 

เพื่อปรับปรุงให้การปราบปรามยาเสพติดมีประสิทธิภาพและมุ่งเน้นให้มีการสืบสวนขยายผล กระทรวงยุติธรรม จึงได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ

2. กระทรวงยุติธรรม ได้พิจารณาดำเนินการตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แล้ว เห็นว่า การแก้ไขเพิ่มเติมร่างระเบียบฯ เป็นการแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินค่าตอบแทนกรณียึดได้แต่ยาเสพติด 

โดยจะจ่ายเงินค่าตอบแทนต่อเมื่อสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดและพนักงานอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาหรือศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดและเลขาธิการ ป.ป.ส. มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 
ทั้งนี้ เพื่อลดภาระด้านงบประมาณและไม่ก่อให้เกิดภาระทางการเงินการคลังแก่รัฐ รวมทั้งไม่ขัดหรือแย้งกับหลักเกณฑ์ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

"ฐานเศรษฐกิจ" ตรวจสอบ "สาระสำคัญ" ของร่างระเบียบสำนักนายกฯ ฉบับดังกล่าว มีดังนี้

การจ่ายเงินค่าตอบแทนกรณียึดได้แต่ยาเสพติด

กฎหมายเดิม

  • ให้จ่ายเงินค่าตอบแทนร้อยละ 25 ของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณยาเสพติด เมื่อพนักงานอัยการสั่งงดการสอบสวน สั่งไม่ฟ้อง หรือมีความเห็นว่าควรสั่งฟ้อง

ร่างกฎหมายใหม่

  • ให้จ่ายเงินค่าตอบแทนต่อเมื่อเจ้าพนักงานผู้สืบสวนจับกุมหรือพนักงานสอบสวนที่ดำเนินการจนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดและพนักงานอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา หรือศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดและเลขาธิการ ป.ป.ส. มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท โดยให้จ่ายค่าตอบแทนร้อยละ 50 ของจำนวนเงินที่คำนวณได้จากปริมาณยาเสพติด

 

ระยะเวลาการยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทน

กฎหมายเดิม

  • ให้ยื่นคำขอเมื่อพนักงานอัยการมีคำสั่งเกี่ยวกับคดีหรือภายในกำหนด 180 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา

กฎหมายใหม่

  • กรณีพนักงานอัยการมีคำสั่งเกี่ยวกับคดี ให้ยื่นคำขอภายในกำหนด 180 วัน เมื่อพนักงานอัยการมีคำสั่งเกี่ยวกับคดี
  • กรณีศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดและเลขาธิการ ป.ป.ส. มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ยื่นคำขอภายใน 180 วัน นับแต่ศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดและเลขาธิการ ป.ป.ส. มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

ปรับเพิ่ม “รางวัลนำจับ” คดียาเสพติด จากเดิมได้ 25% เป็น 50%