"หมอไม่ทน"แจงเปิดแคมเปญไล่“อนุทิน”เหตุรับไม่ได้วัคซีนล่าช้า

26 เม.ย. 2564 | 08:45 น.

"หมอไม่ทน"แจงล่าชื่อล่ “อนุทิน”เหตุรับไม่ได้วัคซีนล่าช้า ไร้แผนฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ครบ 100% ก่อน ต้องกดดันหนักกว่าจะยอม แถมมีข้อครหาปกปิดข้อมูล-ให้ข้อมูลไม่ครบ โดยเฉพาะผลกระทบจากวัคซีนบางล็อต 

ภายหลังมีความเคลื่อนไหวการล่าชื่อเพื่อ เรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และมีผู้ร่วมลงชื่อจำนวนมากนั้น "ทีมข่าวเนชั่นทีวี" ได้พูดคุยกับเครือข่าย "หมอไม่ทน" ที่เปิดแคมเปญรณรงค์เรียกร้องให้ นายอนุทิน ลาออก ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า 

กลุ่ม "หมอไม่ทน" เป็นการรวมตัวกันของแพทย์ระดับปฏิบัติงาน ซึ่งเป็น "ด่านหน้า" จริงๆ ต้องเผชิญกับสถานการณ์กดดันอย่างแทัจริง จึงตระหนักดีว่าปัญหาส่วนใหญ่ในระบบสาธารณสุขที่ประสบอยู่ในขณะนี้ มาจากการบริหารจัดการที่ล้มเลวของรัฐมนตรี

เริ่มจากเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนสนใจมากที่สุด คือ "วัคซีน" ขณะนี้ปรากฏผลชัดเจนแล้วว่าประเทศไทยได้รับวัคซีนล่าช้า และไม่หลากหลาย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง ซึ่งการจัดหาวัคซีนในช่วงแรกเมื่อปีที่แล้ว มีหลักฐานว่า นายอนุทิน เป็นคนที่สั่งการให้ไปติดต่อบริษัทผู้ผลิตวัคซีน เมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้ นายอนุทินจึงต้องรับผิดชอบ 
 

และก่อนหน้าการระบาดระลอกใหม่ ก็แทบไม่มีแผนฉีดวัคซีนที่ชัดเจนเลย และนโยบายยังสับสนว่าจะฉีดให้กลุ่มไหนก่อน บ้างก็จะให้ฉีดกับกลุ่มอาชีพบริการก่อนเพื่อรองรับการเปิดประเทศ แต่กลับไม่มีแผนฉีดบุคลากรทางการแพทย์ให้ครบ 100% ก่อน ทั้งๆ ที่เป็นด่านหน้าที่มีความสำคัญที่สุดต่อการรับมือกับโควิด กระทั่งมีการระบาดระลอกใหม่ และมีกระแสเรียกร้องกดดัน จึงมีแผนฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ให้ครบ 100% ออกมา แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนว่าฉีดไปมากน้อยเท่าไหร่แล้ว 

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก คือ ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนบางล็อต ซึ่งคำชี้แจงของระดับนโยบายแตกต่างจากหน้างานจริงที่แพทย์-พยาบาลต้องเผชิญอยู่ การที่เร่งรีบยืนยันว่าวัคซีนไม่มีปัญหา และสามารถใช้ยาสลายลิ่มเลือดเพื่อให้อาการเป็นปกติได้ เป็นการให้ข้อมูลครบถ้วนกับประชาชนหรือไม่ เนื่องจากการใช้ยาสลายลิ่มเลือดมีผลข้างเคียงอีกด้านหนึ่งด้วยเช่นกัน 

ส่วนวัคซีนที่โรงพยาบาลได้รับ ก็มีปัญหามาก แม้จะเป็นวัคซีนจากล็อตเดียวกัน แต่กลับระบุวันหมดอายุไม่ตรงกัน ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในวัคซีน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :