นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยวันนี้ (10 ก.พ.) ว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 สุราษฎร์ธานี ได้รับตัวอย่างจากสถานีตำรวจในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีลักษณะเป็น ผงละเอียดสีชมพูปนเกล็ดสีขาว น้ำหนักประมาณ 3.14 กรัม บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสซิปล็อค ไม่มีฉลากแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบ เลขสารบบ และสถานที่ผลิตใดๆ จึงได้ทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อหาสารเสพติดและตัวยาอื่นๆ ที่ผสมในตัวอย่างดังกล่าว ด้วยเทคนิค Gas Chromatography Massspectrometry (GC-MS)
ผลการทดสอบ พบว่า มีส่วนผสมของตัวยา เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน (Methylenedioxymethamphetamine : MDMA) หรือยาอี และ เมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine)หรือยาบ้า ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ทั้งนี้ ได้รายงานผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อป้องกันนำไปใช้ในทางที่ผิด และเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของยาดังกล่าวในพื้นที่
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวต่ออีกว่า จากข้อมูลของตำรวจที่ได้สอบถามผู้บริโภคแล้วให้การว่า สารดังกล่าวพวกเขาใช้กินเป็นยาคลายเครียด ซึ่งยาคลายเครียดหรือยานอนหลับนั้น ออกฤทธิ์ต่อสมองและมีผลข้างเคียง เช่น อาการติดยา ถ้าไม่ได้กิน ไม่หลับ ดื้อยา ฤทธิ์ยาตกค้าง เป็นต้น หากกินไปเพื่อคลายเครียดหรือกินติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้เกิดอาการติดยาเสพติด ก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม และปัญหายาเสพติดตามมาได้
“จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบถึงผลิตภัณฑ์ยาคลายเครียดที่มีความเสี่ยงในชุมชน ซึ่งหากบริโภคเข้าไปอาจได้รับยาจำพวกยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ได้โดยไม่รู้เท่าทัน หากประชาชนต้องการใช้ยากลุ่มนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลในครอบครัวหรือชุมชนได้รับอันตรายจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และขอความร่วมมือจากประชาชนและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เป็นเครือข่ายเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพอันตรายในชุมชน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้หมดไป” นายแพทย์ศุภกิจกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตือน “ยาเคนมผง” ใช้เกินปริมาณเสี่ยง หัวใจล้มเหลว
“ยาเคนมผง” ระบาด 5 วัน เข้าบำบัดแล้ว 71 ราย