เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย จ.ภูเก็ต(ซอยด๊อก) เปิดศูนย์การเรียนรู้เพื่อสวัสดิภาพสัตว์สำหรับนักเรียนและเยาวชนเป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยมี นายธะเนต นาวาล่อง ปลัดอำเภอถลาง ผู้แทนจากหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น และสื่อมวลชนร่วมแสดงความยินดี รวมถึงต้อนรับตัวแทนเยาวชนจากหมู่บ้านเด็กโสสะ ภูเก็ต จำนวน 26 คน ประเดิมเยี่ยมชมและทำกิจกรรมที่ศูนย์การเรียนรู้ของมูลนิธิฯ ศูนย์การเรียนรู้ ฝ่ายการศึกษาของมูลนิธิฯ นับเป็นแหล่งการเรียนรู้เพื่อสวัสดิภาพสัตว์แห่งแรกในประเทศไทย สามารถรองรับผู้เรียนได้สูงสุด 40 คนต่อครั้ง ซึ่งจะได้ต้อนรับคณะครูและนักเรียนจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ตและภูมิภาคอื่น ๆ ต่อไป
“การเผยแพร่ความรู้เรื่องสวัสดิภาพสัตว์นั้น ต้องทำควบคู่กับการควบคุมประชากรสัตว์จรจัด เพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน ไม่สามารถอาศัยแค่การทำหมันและฉีดวัคซีนสุนัขและแมวอย่างเดียว แต่มนุษย์เองก็ต้องมีทัศนคติและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสัตว์ที่ถูกต้องด้วย” นางสาวกิรณี นรบาล ประธานมูลนิธิฯ กล่าวระหว่างเปิดงาน
ฝ่ายการศึกษาของมูลนิธิฯเริ่มดำเนินการในปีพ.ศ. 2561 และจนถึงปัจจุบันมีครูที่ได้เข้าร่วมโครงการแล้วทั้งสิ้น 861 คนและนักเรียน 15,058 คน ทั้งในพื้นที่ภูเก็ต จังหวัดใกล้เคียง และพื้นที่อื่น ๆ โดยรูปแบบกิจกรรมเป็นการจัดอบรมให้ความรู้ และฝึกปฏิบัติต่าง ๆ อาทิ การแสดงบทบาทสมมุติ การระดมความคิด และการจัดทำโครงงาน รวมทั้งการเดินทัศนศึกษาที่ศูนย์พักพิงของมูลนิธิฯ เพื่อปลูกฝังจิตใจเมตตาต่อสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์จรจัดให้แก่เยาวชน และการเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ ซึ่งจะเป็นการลดปัญหาการทารุณกรรมสัตว์ สัตว์เลี้ยงถูกทอดทิ้งและการติดต่อโรคพิษสุนัขบ้าสู่คนได้ในระยะยาว
นอกการให้ความรู้แก่นักเรียนในโรงเรียนต่าง ๆ แล้ว ทางมูลนิธิฯก็ยังได้ร่วมกิจกรรมที่อยู่นอกเหนือหลักสูตรในโรงเรียน เช่น การจัดค่ายเยาวชนฤดูร้อน การออกบูธในงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต และในวันเปิดศูนย์การเรียนรู้ก็ได้เรียนเชิญเยาวชนจากหมู่บ้านเด็กโสสะ ภูเก็ต มาร่วมกิจกรรมด้วย
“น้อง ๆ เยาวชนจากหมู่บ้านเด็กโสสะ อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ที่ต้องการให้เด็กที่เคยสูญเสียโอกาสที่จะได้เติบโตในครอบครัวของตัวเอง ได้เติบโตในทิศทางที่เหมาะสมอย่างที่เด็กคนหนึ่งควรจะเป็นมากที่สุด ตามแนวคิดการทำงานของมูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ การจัดกิจกรรมที่ให้ความรู้เรื่องสวัสดิภาพสัตว์และการอยู่ร่วมกันกับสัตว์ในสังคมได้ จะช่วยส่งเสริมให้พวกเขามีจิตใจที่มีเมตตาต่อสัตว์ รู้จักแบ่งปัน และมีองค์ความรู้เพื่อป้องกันตัวเองและคนรอบข้างได้ ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของทั้งมูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ และมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย” นายณัฐวุฒิ คำเงิน ผู้จัดการฝ่ายการศึกษาของมูลนิธิฯ ให้ข้อมูล
กิจกรรมการเรียนรู้ของมูลนิธินั้นอยู่นอกเหนือจากบทเรียนพื้นฐานในห้องเรียน ซึ่งสอดรับกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้กำหนดให้แต่ละโรงเรียนจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” (Moderate Class More Knowledge) เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังค่านิยม จิตสานึกในการทำประโยชน์ต่อสังคม รวมไปถึงพัฒนาด้านการคิดการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยมีครูเป็นผู้สร้างกระบวนการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม สถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จำลองต่าง ๆ ที่มีอยู่จริงในสังคม ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากคณะครูและสถานศึกษาเป็นอย่างดี
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมาสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบซ พระราชทานเครื่องราชฯแก่ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย ทำงานเพื่อสัตว์จรจัดเอเชีย โดยนายจอห์น ดัลลีย์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยได้รับประกาศรายชื่อ เป็นหนึ่งในผู้รับมอบเครื่องราชอิศริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิ ชั้นเอ็มบีอี ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์และบรรดาศักดิ์ ที่สมเด็จพระราชนีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ พระราชทานแก่บุคคลผู้สร้างชื่อเสียง และประกอบด้วยคุณงามความดีเป็นที่ประจักษ์ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติของพระองค์
นายจอห์น ดัลลีย์ได้รับเสนอชื่อจากการทำงานเพื่อสุนัขและแมวจรจัดมาเป็นเวลา 17 ปี และได้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 ซึ่งมูลนิธิฯได้ดำเนินการช่วยเหลือสัตว์จรจัด และทำหมันเพื่อควบคุมจำนวนประชากรสุนัขและแมว โดยภายในสิ้นปีนี้จะสามารถทำหมันสัตว์ได้ถึงยอด 500,000 ตัว นับตั้งแต่มูลนิธิฯได้เริ่มดำเนินการ
การเข้ารับเครื่องราชฯครั้งนี้ นายจอห์น ดัลลีย์ กล่าวว่า เป็นความสำเร็จของอาสาสมัคร พนักงานของมูลนิธิฯ และผู้สนับสนุน ที่ร่วมมือกันทำงานเพื่อให้สัตว์จรจัดได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และอยากมอบรางวัลนี้ให้แก่จิลล์ ดัลลีย์ ภรรยาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ ที่ได้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง และเป็นสตรีคนแรกที่ไม่ใช่เชื้อชาติเอเชียที่ได้รับรางวัล Asian of the Year ในการประกาศรางวัล Channel News Asia annual awards
โดยขณะนี้มูลนิธิฯ ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานในประเทศกัมพูชาและเวียดนาม เพื่อผลักดันให้การค้าเนื้อสุนัขและแมวสิ้นสุดลงอย่างถาวร ควบคู่ไปกับการพยายามร่วมผลักดันให้มีกฏหมายคุ้มครองสัตว์ ที่ครอบคลุมสิทธิและสวัสดิภาพสัตว์ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป