ผู้ว่าฯอุดรธานีลุ้นนาทีสุดท้าย ก่อนพลาดขึ้นชั้นไมซ์ซิตี้ปีนี้ เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการประเมินเมืองไมซ์ซิตี้ ประจำปี พ.ศ.2563 มีมติประกาศให้จังหวัดสงขลา และนครราชสีมา เป็นเมืองไมซ์ลำดับที่ 6 และ 7 ของประเทศ ทำให้จังหวัดต่าง ๆ เร่งเสริมศักยภาพและใช้ “เมืองไมซ์” เป็นกลยุทธ์ดึงดูดการท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ เผยเบื้องหลังเหตุพลาดจากถูก"กั๊กตัวเลขคนเข้าพัก"
โดยที่อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) เติบโตรวดเร็ว เป็นการท่องเที่ยวจากฐานการจัดประชุมองค์กร การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล การประชุมวิชาการ งานแสดงสินค้า และนิทรรศการนานาชาติ รวมทั้งงานกิจกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งจะนำนักเดินทางคุณภาพและมีค่าใช้จ่ายสูงเข้าพื้นที่จำนวนมาก โดยนโยบายจากภาครัฐมีการส่งเสริมภาพลักษณ์ กระตุ้นการท่องเที่ยว โดยมีภาคธุรกิจขานรับเพื่อรองรับการจัดงานได้ตั้งแต่ตั้งแต่ระดับจังหวัด ประเทศ ไปจนถึงระดับนานาชาติ จังหวัดต่าง ๆ ทั้งที่ได้รับยกระดับเป็นเมืองไมซ์ หรือที่พยายามเสนอตัวต่างเร่งใช้เป็นกลยุทธ์ดึงดูดคนเดินทางเข้าพื้นที่เพื่อฟื้่นเศรษฐกิจ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ร่วมกับจังหวัดสงขลา และ 16 องค์กรในพื้นที่ ร่วมเปิดสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ จังหวัดสงขลา (Songkhla Convention and Exhibition Bureau) หรือ SCEB ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ม.อ. อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อเป็นหน่วยงานในการยกระดับเมืองสู่การเป็นศูนย์กลางการจัดประชุม งานแสดงสินค้า และอีเวนต์ระดับนานาชาติ อย่างเข้มแข็งยั่งยืนต่อไป และจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนา การจัดประชุมและนิทรรศการในจังหวัดสงขลา เพื่อร่วมกันพัฒนายกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ในพื้นที่ให้เติบโตครบวงจรทั้งนิเวศธุรกิจ ขณะที่คณะวิทยาการจัดการ ม.อ. เปิดสอนสาขาการจัดการไมซ์ เพื่อสร้างกำลังแรงงานป้อนตลาด
ส่วนจังหวัดอุดรธานีที่ปีนี้พลาดเป้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางจังหวัดพยายามผลักดันให้ได้รับการพิจารณาเป็นเมืองไมซ์จนนาทีสุดท้าย ซึ่งคงต้องพยายามกันต่อในรอบหน้า โดยเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2563 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดอุดรธานีสู่การเป็นไมซ์ซิตี้(MICE) โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนการเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ ที่มีทั้งหน่วยงานภาครัฐรัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา รัฐวิสาหกิจทุกภาคส่วนเข้าร่วม เพื่อร่วมกันรวบข้อมูลต่าง ๆ ในแต่ละด้านตามหลักเกณฑ์ เพื่อนำส่งต่อคณะกรรมการพิจารณาการประเมินการเป็นไมซ์ซิตี้
ผู้ว่าฯอุดรธานี กล่าวย้ำในการประชุมว่า จังหวัดอุดรธานีมีความพร้อม ที่จะได้รับการสนับสนุนให้เป็นเมืองหลักการท่องเที่ยว การประชุมสัมมนา หรือไมซ์ซิตี้ (MICE City) ทั้ง 8 ด้าน 11 หลักเกณฑ์ ตามหลักเกณฑ์กำหนดทุกอย่าง แต่ที่ผ่านมานั้นไม่ได้มีการรวบรวมหลักฐานข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อจังหวัด มีบางภาคส่วนที่ยังมีการเก็บตัวเลขข้อมูลที่ไม่ละเอียดเพียงพอ หรือบางภาคส่วนคิดว่าหากนำข้อมูลดังกล่าวออกมาเปิดเผยจะกระทบกระเทือนต่อธุรกิจ จึงอยากจะขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดเพื่อประโยชน์โดยภาพรวมของจังหวัด และของทุกภาคส่วน ที่สำคัญที่สุดรายได้มวลรวมของจังหวัด(GDP) จากตัวเลขปัจจุบัน จะต้องต้องเพิ่มขึ้นไปอย่างแน่นอน หากได้รับการยกฐานะเป็นเมืองไมซ์ ซึ่งจะทำให้จังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดที่มั่งคัง มั่นคง และเป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัย เป็นศูนย์กลางของ GMS ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดที่ตั้งเอาไว้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุดรฯระดมนักธุรกิจฝ่าโควิด วางอนาคต“เศรษฐกิจวิถีใหม่”
ต่อยอด‘24 For Change’อุดรธานี เติม6มิติ มุ่ง‘ศูนย์กลางลุ่มน้ำโขง’
นิคมกรีนอุดรฯ เล็งดึงทุนญี่ปุ่น-จีน รับไฮสปีด-ระเบียงเศรษฐกิจอีสาน
ผลดีเมื่อได้รับการยกฐานะเป็นเมืองหลักการท่องเที่ยว ด้านการประชุมสัมมนา หรืองเมืองไมซ์ (MICE City) ที่รอกันมาเป็นสิบปี ทั้งที่ควรได้เป็นมานานแล้วจะเกิดได้จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งจะส่งในทางที่ดีต่อทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจจังหวัดเป็นอย่างมาก ตั้งแต่โรงแรมที่พักอาศัย การบริการ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก สถานบันเทิง การบริการ ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจภาคต่าง ๆ ตลอดไปจนถึงชุมชน หมู่บ้าน ธุรกิจโดยรวม เนื่องจากจะมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน จากภาคส่วนต่าง ๆ เดินทางเข้ามายังเมืองอุดรธานี เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดการประชุมสัมมนา ติดต่อธุรกิจอื่น ๆ จนถึงการเดินทางท่องเที่ยว ใช้เงินในการจับจ่ายใช้สอย ซื้อ-ขาย กับการใช้ชีวิตในระหว่างที่อยู่ที่เมืองอุดรธานี ประชาชนคนเมืองอุดรธานีก็จะได้รับผลประโยชน์นี้อย่างเต็มที่ต่อเนื่องไปทุกภาค
นายนิรัตน์ฯกล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลต่าง ๆ ที่คณะกรรมการพิจารณากำหนดมานั้น จังหวัดอุดรธานีมีข้อมูลที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อการจะเป็นเมืองไมซ์อย่างพร้อมมูล อาทิเช่น ในทางภูมิศาสตร์ที่ทำให้จังหวัดอุดรธานี เป็นศูนย์กลางหรือฮับของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือGMS เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเดินทางของภาคอีสานตอนบน มีสนามบินขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับเครื่องบินได้ทุกขนาด มีสายการบินภายในประเทศ 5 สายการบิน ทำการบินเชื่อมทุกภูมิภาคของประเทศ จำนวนวันละเกือบ 60 เที่ยวบิน และยังมีแผนทำการบินเชื่อมอุดรธานี-เมืองโฮจีมินห์ ประเทศเวียดนาม ที่ต้องเลื่อนไปจากสถานการณ์โควิด-19 เพียงรอประกาศจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ให้เปิดน่านฟ้า มีสนามบินวัดไตของกรุงเวียงจันทน์ ที่อยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 85 ก.ม. และสนามบินของท้องถิ่นในภาคอีสานตอนบน เป็นสนามบินสนับสนุนอีกหลายแห่ง
การเดินทางทางบก จังหวัดอุดรธานี มีเส้นทางทางหลวงแผ่นดินหลักที่มาจากภูมิภาคต่าง ๆ ได้ทั้งสี่ทิศทาง ได้แก่ทางหลวงหมายเลข 2 จากกรุงเทพฯ ผ่านนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย ซึ่งสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ได้แก่ ประเทศ สปป.ลาว ผ่านสะพานมิตรภาพข้ามแม่โขงแห่งที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ สนามบินวัดไต ระยะทางเพียง 85 ก.ม. เส้นทางหมายเลข 210 จากจังหวัดเลยและจากภาคเหนือ ทางหลวงหมายเลข 22 จากจังหวัดนครพนม สกลนคร เข้าสู่อุดรธานีทางด้านทิศตะวันออก นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างทางหลวงสายอุดรธานี-บึงกาฬ ระยะทาง 139 ก.ม. สามารถทะลุออกไปแขวงบอลิตำไซ สปป.ลาวได้ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เมื่อโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 5 บึงกาฬ-แขวงบอลิคำไซ ที่กำลังจะมีการลงมือก่อสร้างในปี 2563 นี้
นอกจากนี้มีโดยสารปรับอากาศประจำทางของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จากอุดรธานี- เวียงจันทน์ ไป-กลับ วันละ 12 เที่ยว รถโดยสารอุดรธานี-เมืองวังเวียง สปป.ลาว ไป-กลับ วันละ 2 เที่ยว ซึ่งสามารถเดินทางต่อจากกรุงเวียงจันทน์ ไปยังกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามได้ โดยรถโดยสารปรับอากาศเวียงจันทน์-ฮานอย และต่อไปยังประเทศจีนตอนใต้โดยรถโดยสารปรับอากาศเช่นกันได้อีกด้วย โดยออกจากตลาดจีนของเวียงจันทน์ทุกวัน ๆ ละ 1 เที่ยว ซึ่งเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าต่าง ๆ เช่น ผลไม้จากประเทศจีนเข้ามายังจังหวัดอุดรธานีอีกเส้นทางหนึ่งด้วย
ขณะที่การขนส่งระบบมวลชนภายในตัวเมือง มีรถโดยสารปรับอากาศ 2 สาย แต่ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากโควิค-19 จำเป็นต้องหยุดการเดินรถชั่วคราว มีรถโดยสารสองแถว รถแท็กซี่ รถสามล้อเครื่อง รถสามล้อถีบ เพื่อสามารถนั่งโดยสารชมเมืองแบบสโลว์ไลฟ์ ในด้านการบริการที่พัก มีโรงแรมที่ได้รับมาตรฐานSHA จำนวน 21 แห่ง มีห้องพักรวมกันแล้วกว่า 3,100 ห้อง นอกจากนี้แล้วยังมีโรงแรมที่กำลังก่อสร้างใหม่อยู่อีก 2-3 แห่ง และมีโรงแรมขนาด 4 ดาว มีโครงการปรับปรุงรีโนเวตใหม่อีก 3-4 แห่ง ในส่วนของภาครัฐที่จะเข้ามาใช้จังหวัดอุดรธานี จัดประชุมสัมมนาหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ สำหรับข้าราชการที่มีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณ ก็สามารถหาที่พักราคาประหยัดตามงบเบี้ยเลี้ยงที่ได้รับ ก็สามารถหาที่พักโรงแรมขนาดเล็ก เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ หรือรีสอร์ทที่เหมาะสมกับงบประมาณของทางราชการได้อีกเป็นจำนวนมาก
ส่วนสถานที่ผักผ่อน ช้อปปิ้ง สถานบันเทิง ก็มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ช้อปปิ้งมอลล์ ศูนย์การค้าแบบเปิด ร้านอาหารทั้งขนาดเล็ก หรือสตรีทฟูด ไปจนถึงร้านอาหารขนาดใหญ่ สามารถรองรับลูกค้าได้เป็นพันคน มีศูนย์ประชุม ห้องประชุมขนาดตั้งแต่ 50-3,500 คน ซึ่งได้รับการรับรองจาก TCEB แล้วอีกหลายแห่ง และที่กำลังก่อสร้างอยู่อีกจำนวนหนึ่ง
ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานีมีแหล่งท่องเที่ยวครบทุกมิติ ทั้งด้านธรรมชาติ ด้านธรรมะ เชิงนิเวสน์วิทยา เชิงชุมชนท้องถิ่น มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อาทิเช่น วัดป่าบ้านตาด วัดป่าภูก้อน วังนาคินคำชะโนด และวัดสายธรรมยุติอีกเป็นจำนวนมากหลายสิบแห่ง ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวสายบุญ เดินทางไปทำบุญ ถือศีล นั่งสมาธิ เป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้มีการเก็บตัวเลขสถิติรวม เฉพาะที่มาวังนาคินคำชะโนด อ.บ้านดุง มีผู้ที่เดินทางมาร่วมทำบุญ กราบไหว้สักการะบูชา ทางอำเภอบ้านดุงและมูลนิธิคำชะโนด ทำการเก็บตัวเลขของผู้ที่เดินทางไปกราบสักการะพ่อปู่ศรีสุทโธ แม่ย่าศรีปทุมมา พบว่าในปี 2561 มีจำนวน 2,622,000 คนเศษ ปี 2562 จำนวน 3,367,000 คนเศษ เฉลี่ยวันละประมาณ 7,000 คน ซึ่งจะเป็นนักท่องเที่ยวสายบุญ ทั้งคนไทยที่มาจากทุกภาค และคนลาว เดินทางไปทำบุญสักการะกราบไหว้สักการะ
นอกจากนี้มีรายงานตัวเลขคนลาวที่เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)หนองคายในปี 2562 ประมาณ 1.6 ล้านคน โดยประมาณ 80% เพื่อเข้ามาใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกและช้อปปิ้งที่จังหวัดอุดรธานี หรือเพื่อเดินทางโดยสารเครื่องบิน จากท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานีต่อไปยังกรุงเทพฯหรือต่างประเทศ และจากการที่จังหวัดอุดรธานีมีโรงพยาบาลเอกชน มีคลินิกเสริมความงาม เป็นที่ยอมรับให้เป็นศูนย์กลาง หรือฮับของการรักษาพยาบาล ที่เป็นที่นิยมของประชาชน และชาวลาวนิยมมาใช้บริการขอรับการรักษาพยาบาล พร้อมด้วยผู้ติดตามอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้จังหวัดนี้มีรายได้จากการรักษาพยาบาล และการเสริมความงามโดยเฉพาะจากชาวลาวปีละกว่า 2 หมื่นคน
ด้านแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติก็มีเป็นจำนวนมาก ที่เป็นที่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวกันมากเป็นกรณีพิเศษคือ ทะเลบัวแดงหนองหาน ที่เป็นแหล่งชุ่มน้ำที่ได้รับการรับรองขององค์การสหประชาชาติ และได้รับการยกให้เป็นทะเลสาบที่แปลกประหลาดของโลก 1 ใน 15 แห่งทั่วโลก ซึ่งจะมีดอกบัวแดงออกดอกบานในช่วงของเดือน พฤศจิกายน- มีนาคม ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศและจากต่างประเทศ เดินทางมาเที่ยวชมปีละหลายแสนคน อีกแห่งหนึ่งคือ วนอุทยานภูฝอยลม เป็นสถานที่นิยมของนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมและพักผ่อน เนื่องจากจะมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี นอกจากนี้แล้วก็ยังมีแหล่งมรดกโลกบ้านเชียง อ.หนองหาน อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท อ.บ้านผือ และอื่น ๆ อีกหลายแห่ง
นายนิรัตน์ย้ำว่า ต้องขอรับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน กับการผลักดันข้อมูลของจังหวัดที่มีศักยภาพต่าง ๆ ออกมา เพื่อให้จังหวัดอุดรธานีได้รับการยกฐานะเป็นเมืองไมซ์ (MICE City) หรือเมืองท่องเที่ยวหลัก เพราะจังหวัดอุดรธานีมีความพร้อม มีศักยภาพในตัวเมืองอยู่แล้ว ทั้งในด้านการเป็นเมืองหลักของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน มีนิคมอุตสาหกรรม มีศูนย์กระจายสินค้า หรือท่าเรือบก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องแสดงตัวออกมาให้ทุก ๆ ฝ่ายเห็น และเป็นความจริงที่สามารถตรวจสอบได้ จะทำให้ทุกภาคส่วนของธุรกิจได้รับประโยชน์จากการเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ทั้ง โรงแรม ศูนย์ประชุม การบริการ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านจายของที่ระลึกไปจนถึงชุมชน หมู่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ผ่านมานายนิรัตน์เคยกำชับผู้ประกอบการโรงแรมให้แจ้งข้อมูลลูกค้าที่เข้าพักให้ตรงความเป็นจริง เนื่องจากประเมินจากยอดคนเข้าพื้นที่จังหวัด ทั้งทางเครื่องบิน รถยนต์โดยสาร และรถยนต์ส่วนบุคคล โดยมีทั้งคนไทยและจากประเทศเพื่อนบ้านแล้ว เชื่อว่าตัวเลขน่าจะสูงกว่าที่แจ้ง และเข้าเกณฑ์พิจารณาเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมในระบบยืนยันแจ้งข้อมูลตามความเป็นจริง และปัญหาเกิดจากผู้ให้บริการที่พักนอกระบบมากกว่า