ดราม่า “เยียวยาเราไม่ทิ้งกัน” ป้าวัย 69 ร้องถูกขู่เอาเงินลงทะเบียน

12 มิ.ย. 2563 | 04:55 น.

ดราม่า “เยียวยาเราไม่ทิ้งกัน” ป้าวัย 69 ถูกขู่เอาเงินลงทะเบียน ด้านหญิงเพื่อนบ้านโต้ไม่ได้ขู่เอาเงินแจงเป็นค่าสินน้ำใจ

นางเทียม โจดรัมย์ อายุ 69 ปี ชาวตำบลบ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือว่ากำลังได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากถูกวัยรุ่นข้างบ้านข่มขู่จะเอาเงินค่าที่ช่วยลงทะเบียนรับเงิน เยียวยาเราไม่ทิ้งกัน จากมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด-19 ของรัฐบาลเดือนละ 5,000 บาท โดยจะต้องจ่ายให้วัยรุ่นคนดังกล่าวเดือนละ500 บาท ซึ่งจ่ายไปแล้ว 2 เดือน 1,000 บาทยังเหลืออีก 1 เดือน 500 บาท 

นางเทียม กล่าวว่า อีก 1 เดือน 500 บาทจะไม่ยอมจ่ายให้แล้ว เพราะจำเป็นต้องใช้เงินซื้อข้าวปลาอาหารกินประทังชีวิต เพราะปัจจุบันตนเองอาศัยเพียงเบี้ยยังชีพคนชรา บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซื้อข้าวปลาอาหารกิน

ส่วนลูกชายก็รับจ้างกินไปวันๆเท่านั้น แต่จู่ๆ พอได้ เงินเยียวยาเราไม่ทิ้งกัน กลับจะมาเรียกเอาเงินค่าลงทะเบียนเดือนละ 500บาท เมื่อ วัยรุ่นคนดังกล่าวทราบว่า ตนเองจะไม่ให้เงินที่เหลือจึงไม่พอใจทั้งใช้คำพูดและไปโพสต์ข่มขู่ในโซเชียลด้วยว่า "ถ้าไม่จ่ายระวังโดนนะอีแก่" ก็รู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะตนเองก็อายุมากแล้ว จากกรณีดังกล่าวแม้จะไม่พอใจและกลัวเพราะถูกข่มขู่แต่ตนก็ไม่ได้จะเอาเรื่องอะไร เพราะเห็นว่าเป็นลูกหลานบ้านใกล้เรือนเคียงกัน แค่ไม่อยากให้มาบังคับเอาเงินเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามเมื่อสอบถามผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าขู่บังคับเอา เงินเยียวยา ของนางเทียม คือ น.ส.นิตยา ต้นโลม  อายุ 32 ปี  ซึ่งอยู่บ้านกับสามีและลูกน้อยอีก 3 คน  บอกว่า ตนเองอยู่บ้านหลังติดกันกับนางเทียม  ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ขู่บังคับหรือเรียกร้องเอาเงินจากนางเทียมตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมชี้แจงว่า เงินเยียวยา ก็ไม่ได้เป็นของนางเทียม ผู้เป็นแม่แต่เป็นเงินเยียวยาของนายปุ๊ ลูกชาย เนื่องจากเมื่อประมาณวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา นายปุ๊ ลูกชายของนางเทียม ซึ่งก็คุ้นเคยกันดีเพราะอยู่บ้านติดกัน มาขอให้ตนเองช่วยลงทะเบียนรับ เงินเยียวยา เดือนละ 5,000 บาทให้เพราะทำไม่เป็น ซึ่งตอนนั้นตนก็นั่งอยู่กับเพื่อน 4-5 คน ตนก็ตอบไปว่าขนาดตนเองยังลงไม่ผ่านเพราะระบบแจ้งว่าเป็นเกษตรกร ทั้งที่ไม่ได้เป็นเกษตรกร ตนจึงบอกว่าจะช่วยลงให้ ซึ่งหากลงผ่านจะให้ค่าสินน้ำใจเดือนละ 500 บาท ตลอด 3 เดือน ซึ่งนายปุ๊ ก็ตอบตกลง  จากนั้นตนก็ใช้โทรศัพท์ของตนเองลงทะเบียนให้ ทั้งพาไปเปิดบัญชี สมัครพร้อมเพย์ที่ธนาคารด้วย เพราะนายปุ๊ ทำไม่เป็น ซึ่งตนต้องคอยตรวจสอบเป็นระยะว่าผ่านหรือไม่ และลงทะเบียนให้นายปุ๊ ถึง 4 รอบเพราะไม่ผ่านต้องยื่นอุทธรณ์ ซึ่งโทรศัพท์และค่าเนตก็เป็นของตนเองทั้งหมด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

หวั่น "เงินเยียวยา" หมดฤทธิ์ดึงไทยสู่ภาวะ "เงินฝืด"

“เยียวยาเกษตรกร” ธ.ก.ส.พร้อมมากโอนเงินกลุ่มตกค้าง 4.4 แสนราย

กระทั่งลงทะเบียนผ่านและได้รับ เงินเยียวยา โดย 2 เดือนแรก นายปุ๊ ก็นำเงินมาให้ตนจริง 1,000 บาท แต่กลับไม่ยอมไปอธิบายให้แม่ตัวเองฟัง ปล่อยให้เข้าใจผิดและมาต่อว่าตนเองแบบเสียหาย และยืนยันว่าตนเองไม่เคยไปข่มขู่ตามที่ถูกกล่าวหา แค่โพสต์เฟสเพื่อระบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น และอยากให้นางเทียม พูดความจริงด้วย ส่วนที่แม่นายปุ๊ บอกว่าจะไม่ให้เงินเดือนที่สามอีก 500 บาทนั้น ตนก็คงไปบังคับไม่ได้ก็ถือว่าเขาไม่ทำตามที่รับปากไว้ แต่ก็รู้สึกเสียใจที่ช่วยทำให้แล้วกลับมาถูกกล่าวหาแบบนี้ ทั้งที่ครอบครัวตัวเองก็เดือดร้อนเหมือนกันมีสามีคนเดียวที่ได้รับเงินเยียวยา ก็ขอความเห็นใจบ้าง