มทร.ธัญบุรี ร่วม อุโมงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติ

01 พ.ค. 2563 | 06:07 น.

มทร.ธัญบุรี ร่วมมือ บริษัท แก้วกานดา พัฒนาอุโมงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติ ทีมวิจัย เตรียมเสริมฟังก์ชั่นคัดกรอง และเฝ้าสังเกตอัจฉริยะ เพื่อขยายผลด้านข้อมูล และนำไปใช้ประโยชน์ได้เพิ่มขึ้น

ผศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เปิดเผยว่า ทีมวิจัยศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพ-นาโน และนวัตกรรมดิจิทัล (COE) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.ธัญบุรี ร่วมกับบริษัท แก้วกานดา จำกัด ทำการพัฒนาอุโมงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติ ตัวอุโมงค์ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพแข็งแรงทนทาน สามารถพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นละอองฝอย ฆ่าเชื้อเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส ได้ครอบคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยใช้เวลาเพียง 6 วินาที ต่อคน ผู้พิการ 

มทร.ธัญบุรี ร่วม อุโมงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติ

ผู้ใช้รถเข็นวิลแชร์ก็สามารถเข้าใช้งานอุโมงค์ได้ ใช้เซ็นซอร์สั่งงานแบบอัตโนมัติ และมีระบบควบคุมการทำงาน รองรับการใช้งานในปริมาณมากได้ถึงวันละ 5,000 – 7,000 คน โดยใช้น้ำยาเพียง 2 ลิตร ซึ่งน้ำยาฆ่าเชื้อถูกพัฒนาโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพ-นาโน และนวัตกรรมดิจิทัล (COE) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.ธัญบุรี ผ่านการรับรองนำมาใช้กับอุโมงค์ โดยผลงานดังกล่าวเหมาะที่จะนำไปติดตั้งใช้งานในโรงเรียน สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา งานนิทรรศการที่มีคนเป็นจำนวนมาก เป็นต้น
 

ทีมวิจัยของคณะฯ กำลังเสริมฟังก์ชั่นคัดกรองและเฝ้าสังเกตอัจฉริยะ (screening and monitoring intelligence functions) เพื่อประโยชน์ในการคัดกรองกลุ่มเสี่ยง ติดตาม และนำข้อมูลไปวิเคราะห์ เพื่อให้หน่วยงานนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ นอกจากผลดังกล่าว ทางศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพ-นาโน และนวัตกรรมดิจิทัล (COE) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.ธัญบุรี ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อนี้นำไปผสมน้ำในอัตราส่วน 1:100 ใช้สำหรับเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคทั่วไปได้ และผลิตภัณฑ์สเปรย์แอลกอฮอล์ทั้งแบบขวดพกพาและแบบถุงเติมที่ส่วนผสมของสมุนไพร มีกลิ่นหอม เย็น สดชื่น ถนอมผิว ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ใช้งานได้อย่างปลอดภัย และสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ 99.99% ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของคณะฯ พัฒนาต่อยอดจากผลงานวิจัย และตอบสนองต่อมาตรการดูแลบุคลากร นักศึกษา และประชาชนทั่วไปของมหาวิทยาลัยฯ และรัฐบาล