โรช พัฒนาชุดตรวจภูมิต้านทานโควิด-19 เล็งวางจำหน่าย พ.ค.นี้

22 เม.ย. 2563 | 01:57 น.

โรช พัฒนาเทสต์ตรวจโรคโควิด-19 แบบตรวจหาสารภูมิต้านทานในเลือด ชุดตรวจเลือดเพื่อหาภูมิต้านทาน Anti-SARS-CoV-2 สามารถตรวจหาแอนติบอดีต่อเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ในผู้ป่วยที่ได้สัมผัสกับเชื้อมาแล้ว โดยเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19 เผยมีแผนวางจำหน่ายต้นเดือนพฤษภาคมนี้ เริ่มจากประเทศที่ยอมรับการรับรองด้วยมาตรฐาน CE Mark ก่อน

จากที่โรช ในกรุงบาเซลได้ประกาศเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 ว่าบริษัทกำลังพัฒนาและเตรียมที่จะเปิดตัวชุดทดสอบเพื่อหาภูมิต้านทาน  Anti-SARS-CoV-2  ที่สามารถตรวจหาสารภูมิต้านทานในผู้ที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (Severe Acute Respiratory Syndrome Coronavirus 2; SARS-CoV-2) อันเป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19

 

โรช พัฒนาชุดตรวจภูมิต้านทานโควิด-19 เล็งวางจำหน่าย พ.ค.นี้

 

การทดสอบหาสารภูมิต้านทาน มีบทบาทสำคัญในการระบุตัวผู้ติดเชื้อไวรัส โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการใด ๆ นอกจากนี้ ชุดทดสอบยังสามารถใช้รองรับการตรวจคัดกรองกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง เช่นบุคลากรทางการแพทย์ หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการจัดส่งและทำอาหาร โดยที่คนเหล่านี้อาจมีภูมิต้านทานเชื้ออยู่แล้วในระดับหนึ่ง จึงสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ตามปกติ และเมื่อทุกภาคส่วนมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับภูมิต้านทานโรคโควิด-19 ชุดทดสอบนี้ก็อาจช่วยให้สังคมฟื้นคืนสู่สภาวะปกติได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

 

โรช พัฒนาชุดตรวจภูมิต้านทานโควิด-19 เล็งวางจำหน่าย พ.ค.นี้

 

นายเซเวริน ชวาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโรช กรุ๊ป กล่าวว่า หลังจากบริษัทฯ เปิดตัวชุดทดสอบแบบ PCR เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม เพื่อใช้ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตรง ขณะนี้ มีแผนที่จะเปิดตัวชุดทดสอบสารภูมิต้านทานแบบใหม่ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยเชื่อว่าการมีชุดทดสอบที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้มากขึ้นในตลาด จะช่วยให้หน่วยงานในภาคสาธารณสุข สามารถต่อสู้และเอาชนะโรคร้ายได้ ซึ่งขณะนี้ โรชทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานของภาครัฐ พร้อมยกระดับกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกจะมีโอกาสได้ใช้งานชุดทดสอบนี้ในเวลาไม่นานนัก

“โรชมีความมุ่งมั่นอย่างสูงสุดที่จะสนับสนุนทุกภาคส่วนในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ที่ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก” โธมัส ชิเนคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโรช ไดแอกโนสติกส์ กล่าว 

การส่งมอบชุดตรวจอย่างทันท่วงที และการเปิดให้บุคลากรทางการแพทย์ได้เข้าถึงชุดตรวจที่มีคุณภาพสูงและเชื่อถือได้ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ชุดทดสอบสารภูมิต้านทานนี้ จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 โดยโรชสามารถขยายการผลิตและจัดจำหน่ายชุดตรวจดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้ทั่วโลก 

ชุดตรวจสารภูมิต้านทาน Anti-SARS-CoV-2 นี้ เป็นชุดตรวจภายในห้องปฏิบัติการ โดยการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาสารภูมิต้านทานและปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อเชื้อ SARS-CoV-2 จากเซรั่มและพลาสม่าในตัวอย่างเลือดของผู้เข้ารับการตรวจ ทั้งนี้ ชุดตรวจนี้อาจถูกนำไปใช้ประกอบการวิจัยเชิงระบาดวิทยา เพื่อสร้างเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 และยังอาจนำไปใช้ร่วมกับการทดสอบเชิงโมเลกุลเพื่อวินิจฉัยและคัดแยกผู้ป่วยที่ติดโรคดังกล่าว ทั้งนี้ โรงพยาบาลและศูนย์วิจัยสามารถใช้ชุดทดสอบนี้ร่วมกับเครื่องมือตรวจวิเคราะห์ระบบอัตโนมัติของโรช ซึ่งมีให้ใช้งานในแล็บทั่วโลก

โรช พัฒนาชุดตรวจภูมิต้านทานโควิด-19 เล็งวางจำหน่าย พ.ค.นี้

โรชจะเริ่มจัดจำหน่ายชุดตรวจสารภูมิต้านทานนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ในประเทศที่ยอมรับการรับรองด้วยเครื่องหมาย CE โดยบริษัทฯ ยังคงทำงานร่วมกับองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อขอใบอนุญาตการใช้งานในกรณีฉุกเฉินสำหรับชุดตรวจ นอกจากนี้ โรชยังมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตของชุดตรวจ Anti-SARS-CoV-2 ให้ได้เป็นหลักหลาย 10 ล้านชิ้นต่อเดือน ภายในมิถุนายนนี้ และจะทำการขยายการผลิตเพิ่มขึ้นต่อไป

สำหรับเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 (โคโรนาไวรัส - CoV) เป็นไวรัสตระกูลหนึ่งที่เป็นต้นเหตุของหลายโรค นับตั้งแต่โรคที่พบได้ทั่วไปอย่างหวัดธรรมดา ไปจนถึงโรคร้ายแรงอย่าง Middle East Respiratory Syndrone (MERS-CoV) หรือ Severe Acute Respiratory Syndrome (SARS-CoV) ส่วนเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) นั้น เป็นเชื้อที่ไม่เคยตรวจพบในมนุษย์ ก่อนที่จะเกิดการระบาดขึ้นในปัจจุบัน

 

โรช พัฒนาชุดตรวจภูมิต้านทานโควิด-19 เล็งวางจำหน่าย พ.ค.นี้

 

อาการอันเป็นสัญญาณบ่งบอกผู้ติดเชื้อ ประกอบไปด้วยอาการที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ เช่นไอ หายใจไม่สะดวก และไข้ขึ้น โดยในกรณีที่ร้ายแรง เชื้อในตระกูลนี้อาจก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ไตวาย หรือถึงกับเสียชีวิตได้ เพื่อลดการระบาดของเชื้อไวรัสประเภทนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ล้างมือเป็นประจำ ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม ปรุงอาหารประเภทเนื้อสัตว์และไข่ให้สุกอย่างทั่วถึง และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้หรือสัมผัสผู้ที่มีอาการของโรคทางเดินหายใจ