ปิดครบ14วัน”บ้านท่าดอกแก้ว”ปลดล็อกพรุ่งนี้

วันที่ 10 เมษายน 2563 ที่บ้านท่าดอกแก้ว หมู่ที่ 5 และ 6 ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายอำเภอท่าอุเทน ทีมแพทย์ในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม องค์การบริหารส่วนตำบลท่าจำปา และเจ้าหน้าที่ อสม.บ้านท่าดอกแก้ว ร่วมกันตรวจเช็คความพร้อมครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเปิดหมู่บ้านพรุ่งนี้ หลังจากที่ทั้ง 2 หมู่บ้านถูกตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด 19 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 จำนวน 1 รายในหมู่บ้าน และถูกสั่งปิดหมู่บ้านห้ามใครเข้าออกเป็นเวลา 14 วัน

 โดยการตรวจเช็คในครั้งนี้จะเน้นทั้งการตรวจสุขภาพของคนในหมู่บ้านและสภาพแวดล้อม เริ่มตั้งแต่ทุกคนในทุกหลังคาเรือน ต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ เพื่อยืนยันว่าไม่มีคนที่เจ็บป่วย เป็นไข้ หรือมีอะไรที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ซึ่งถ้ามีก็จะยังคงการปิดหมู่บ้านต่อไป

นอกจากนี้ยังมีการตรวจเช็คสภาพแวดล้อมภาพรวมทั้งหมดของบ้านแต่ละหลัง ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์ คือ ทุกคนต้องมีหน้ากากอนามัยปิดปากปิดจมูก มีที่สำหรับล้างมือในแต่ละครัวเรือนที่ชัดเจน มีถังขยะและการคัดแยกขยะอย่างถูกสุขอนามัย มีการจัดการบ้านเรือนให้สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีลูกน้ำยุงลายในบ้าน ซึ่งถ้าผ่านเกณฑ์ทั้งหมดก็จะได้รับสติ๊กเกอร์ Clean Home บ้านสะอาด ปลอดภัย ใส่ใจทุกจุด พิชิตโควิด 19 จากทางเจ้าหน้าที่ไปติดที่ตัวบ้าน เพื่อเป็นการยืนยันความพร้อมสำหรับการปลดล๊อคในวันพรุ่งนี้

นางรุ่งรัตน์ ประดิษฐ์บุญ ผู้ใหญ่บ้านท่าดอกแก้ว หมู่ 6 เปิดเผยว่า ตั้งแต่ถูกสั่งปิดหมู่บ้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้นำทีมเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในทุก ๆ ด้าน ก็ขอเป็นตัวแทนขอขอบคุณท่านและทีมงานทุกคน ที่มีความห่วงใยต่อชาวบ้านท่าดอกแก้ว

สำหรับมาตรการทั่วไปหลังจากปลดล็อคแล้ว ก็ได้คุยกับผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 และคณะกรรมการหมู่บ้าน โดยตงลงกันว่า ทั้ง 2 หมู่บ้านจะยังคงมีมาตรการตรวจคัดกรองเช่นเดิม ไม่ว่าใครจะมาจากไหน ถ้าจะเข้าพื้นที่หมู่บ้านของเราที่ทุกคนมั่นใจว่าปลอดเชื้อโรค จะต้องได้รับการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิก่อนเสมอทั้งขาเข้าและขาออก รวมทั้งมีการลงบันทึกประวัติว่ามาจากไหน จะไปที่ไหน ไปบ้านใคร มาอยู่กี่วัน เมื่อมาจากต่างจังหวัด หรือที่อื่น ๆ มาอยู่ในหมู่บ้าน จะต้องกักตัวก่อนเป็นเวลา 14 วัน ถึงจะออกไปสู่พื้นที่ในชุมชนได้

ทั้งนี้ทุกคนจะร่วมเป็นหูเป็นตาช่วยกัน โดยกลางวันจะเป็นเจ้าหน้าที่ อสม.ของหมู่บ้าน ที่เป็นผู้หญิงเข้าเวร ส่วนกลางคืนจะเป็นหน้าที่ของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ซึ่งเป็นผู้ชาย เข้าเวรหมุนเวียนสลับกันทำหน้าที่ไปเรื่อย  ๆ