คาดเข้าข่าย 500 คน สธ.วอนกลุ่มเซียนมวยตรวจโควิด

วันนี้ (20 มี.ค.63) นายแพทยสุวรรณชัย ยิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวว่า จากการที่ได้ติดตามกลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่สนามมวยลุมพินีนั้น สามารถติดตามได้เพียง 55 คนเท่านั้น โดยเป็นการที่ทีมสาธารณสุขสอบสวนโรคได้เข้าไปทำการค้นหาข้อมูลจากเฟสบุ๊ก ในขณะที่ในแมตช์ครั้งนี้คาดว่าผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่า 5 พันคน 

โดยคาดว่า มีผู้ที่อาจจะเข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประมาณ 500 ราย ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ใกล้ชิดกับบุคคลเหล่านี้อาจได้รับเชื้อดังกล่าวได้ จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มคนดังกล่าวที่อยู่ในสนามมวยในช่วงเวลาดังกล่าวได้ติดต่อแสดงตัวเพื่อรับการตรวจการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ 1422  สำหรับรายที่ยังไม่มีอาการป่วยก็ขอให้แจ้งรายละเอียดมาด้วย พร้อมกันนี้ขอแนะนำให้คนกลุ่มนี้กักตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน 

ทั้งนี้ ให้แยกของส่วนตัวออกจากคนในครอบครัว และไม่ออกไปสังคมนอกบ้าน ทั้งนี้ สธ.ต้องการได้ข้อมูลเบื้องต้นจากกลุ่มคนดังกล่าว 500 คนเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการในการดำเนินการมาตรการป้องกันและควบคุมโรคเพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาด

อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุด้วยว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือมีกิจกรรมในสนามมวย 66.7 % อยู่ในพื้นที่กทม. แต่คนกลุ่มนี้มีการเดินทางกลับภูมิลำเนา ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้กลุ่มคนดังกล่าวกักตัวเองที่บ้าน และขอให้ตระหนักว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสนี้ ประมาณ 80% เป็นผู้ป่วยจากการเกิดการสัมผัส ซึ่งมีอาการเบา 

ดังนั้น จะต้องมีการประเมินตนเอง ซึ่งไม่ต้องการให้เกิดความตระหนกแต่ต้องการให้เกิดความตระหนักโดยต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อตัดวงจรการแพร่เชื้อและรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการแยกตัวเอง ไม่เข้าสังคม และให้คนในครอบครัวของตัวเองแยกจากคนอื่นด้วย  

“จากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยซึ่งเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสนามมวยพบว่ามี 72 คนแล้ว ส่วนกลุ่มของสถานบันเทิงนั้นอยู่ที่ 62 คน ซึ่งเป็นสถานที่ที่อยู่ในหัวเมืองต่างๆ อย่างไรก็ดี แนะนำว่า สำหรับคนทั้งสองกลุ่มนี้ที่ก่อนหน้านี้ได้ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 แล้วยังไม่พบ หรือยังไม่แสดงอาการป่วย ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่ติดเชื้อ เพราะก่อนที่จะครบ 14 วันนั้นโอกาสตรวจพบเชื้อมีน้อย” 

จากกรณีล่าสุดที่พบผู้ติดเชื้อเป็นเด็กวัย 6 เดือนจากจุดดังกล่าวสะท้อน คนกลุ่มเปราะบาง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และป่วยมีโรคประจำตัว ไม่ควรจะออกไปไหนซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมป้องกันไม่ให้กลุ่มนี้ติดเชื้อ เพราะหากมีการติดเชื้อจะมีสภาพความรุนแรงของโรคมากกว่าผู้ป่วยวันทำงานที่จะไม่มีอาการเนื่องจากมีร่างกายที่แข็งแรงกว่า