ทวง"เทอร์โมสแกน"ภูเก็ตข้องใจอนุมัติแล้วทำไมช้า
ท่องเที่ยวภูเก็ตข้องใจการท่าฯ จัดหาเครื่องเทอร์โมสแกนเพิ่มเติมใหม่ทำไมช้า ชี้ต้องใช้คัดกรองนักท่องเที่ยวขณะการระบาดขยายวง ยื่นหนังสือสาธารณสุขถามรายละเอียดแนวปฎิบัติกับนักท่องเที่ยวจากพื้นที่เสี่ยง
วันนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ( 9 มีนาคม 2563) นายสรายุทธ มัลลัม ประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เรียกร้องบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารสนามบินภูเก็ต ขอให้เร่งติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนที่ท่าอากาศยานภูเก็ตเพิ่มโดยเร็ว เนื่องจากสนามบินเป็นจุดคัดกรองผู้โดยสารเบื้องต้นในการรับมือการระบาดโควิด-19 โดยภูเก็ตยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา ขณะที่การระบาดเริ่มแพร่ไปถึงพื้นที่ยุโรป-อเมริกาแล้ว
นายสรายุทธ กล่าวว่า เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา กมธ.ท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญธุรกิจท่องเที่ยวไปให้ข้อมูล การประชุมวันนั้นซึ่งมีรองปลัดกระทรวงคมนาคมมารับเรื่องไปด้วยคือ หนึ่งในปัญหาสำคัญที่ได้เสนอไปคือ เครื่องเทอร์โมสแกน(วัดอุณหภูมิ) ที่เวลานี้มีใช้คัดกรองเฉพาะกลุ่มระหว่างประเทศ ขณะที่ภายในประเทศยังไม่มีใช้ และเครื่องที่ใช้อยู่ก็เก่าพอสมควรแล้ว น่าจะซื้อเพิ่มอีก 4 เครื่อง เพื่อจะใช้ในสนามบินได้ทั้งขาเข้าขาออก ทั้งโดเมสติกและอินเตอร์ฯ ซึ่งเรื่องนี้ทราบว่าบอร์ดการท่าฯได้อนุมัติเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้จัดซื้อเครื่องเทอร์โมสแกนดังกล่าว
ผ่านไป 1 สัปดาห์ผมได้สอบถามไปทางการท่าฯ ว่าติดตั้งหรือยัง ก็ได้รับคำตอบว่าทางการท่าฯจะจัดซื้อเพื่อติดตั้งในสนามบินของการท่าฯ 6 แห่งทั่วประเทศ โดยจัดซื้อพร้อมกันและติดตั้งทีเดียวพร้อมกัน จึงอยากจะเรียนถามมายังผู้ดูแลฯ ว่าจะใช้เวลาดำเนินการอีกกี่นานไหมในการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะเราจะต้องรับมือกับการระบาดของโควิด-19 เบื้องต้นที่สนามบินก่อน จึงอยากให้การท่าฯดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อมาติดตั้งโดยเร็ว
วันเดียวกัน 5 องค์กรการท่องเที่ยวภูเก็ต ประกอบด้วยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สมาคมโรงแรมหาดป่าตอง และสมาคมผู้ประกอบการโรงแรมหาดกะตะกะรน เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีสาธารณสุข ผ่านนายภัคพงศ์. ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เรื่องการปฏิบัติต่อผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต ตามประกาศของทางการ แต่ยังไม่มีรายละเอียดวิธีปฎิบัติที่ชัดเจน จนเกิดความสับสนในพื้นที่ ซึ่งเรื่องนี้ทางจังหวัดแจ้งว่า หนังสือเพิ่งมาถึง และได้เชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมหารือเพื่อสรุปผลในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้