เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ที่ห้องรอยัลจูบิลี่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เข้าร่วมงานเปิดโครงการเสริมสร้างการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ ในการนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นประธานเปิดตัวโครงการดังกล่าว พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงมอบนโยบายการสร้างความปลอดภัยทางถนน โดยเน้นย้ำให้ใช้กลไกระดับพื้นที่ลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนครอบคลุมทุกมิติ ทั้งคน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในสังคมไทย เพื่อสร้างการสัญจรปลอดภัยอย่างยั่งยืนในทุกเส้นทาง
นายนิพนธ์ กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนน พบว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดอุบัติเหตุในเส้นทางตำบลและหมู่บ้าน จึงจำเป็นต้องใช้กลไกในระดับพื้นที่สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้ตรงจุด ภายใต้โครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ ซึ่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พ.ศ. 2554 ได้กำหนดโครงสร้างการสร้างความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่ผ่านกลไกของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด และศูนย์อำนวยการปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ ในการขยายผลนโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรการ และแผนงานด้านความปลอดภัยทางถนนไปสู่การปฏิบัติให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ร่วมคิด ร่วมวางแผน และร่วมลงมือในการป้องกันและลดอุบัติทางถนนอย่างเข้มข้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนนในระดับพื้นที่
จากนั้นนายนิพนธ์ ได้กล่าวสรุปผลการดำเนินการโครงการประชุมวิชาการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนนเพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน ว่า จากสภาพสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ตามเส้นทางต่างๆ ของประเทศไทย พบว่า ถนนในประเทศไทยทั้งหมด มีระยะทางประมาณ 452,238 กิโลเมตร แบ่งเป็นถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบ ของกรมทางหลวง ประมาณ 51,813 กิโลเมตร กรมทางหลวงชนบท 47,960 กิโลเมตร และถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ทุกระดับ ประมาณ 352,465 กิโลเมตร โดยจากการสำรวจข้อมูลอุบัติเหตุของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีพบว่า อุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่เกิดบนถนนของ อปท.สูงถึงร้อยละ 82 ของการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด และมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนบน ถนนของ อปท.ถึงร้อยละ 85 ของผู้เสียชีวิตจาก อุบัติเหตุทางถนนทั้งหมด เป็นที่มาในการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับท้องถิ่น จำนวน 3 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)องค์การบริหารส่วนจังหวัด ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2562) พ.ร.บ.เทศบาล ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2562) และพ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2562) มาตรา 19 กำหนดให้องค์การบริหารส่วนตำบล/เทศบาล รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย การดูแลการจราจร และส่งเสริม สนับสนุน หน่วยงานอื่นในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
โดยท้องที่และท้องถิ่นจะต้องดำเนินการหนุนเสริมกันและเชื่อมโยงการ ดำเนินงานควบคู่กันไปอย่างเป็นระบบ ศปถ.อำเภอ ต้องมีบทบาทในการดูแลความปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้น โดยแต่ละอำเภอซึ่งรับผิดชอบแต่ละท้องถิ่นต้องมีการสำรวจ ปิดจุดเสี่ยงด้านกายภาพบนท้องถนน เช่น หลุมถนน ไฟส่องสว่าง การปรับปรุง ภูมิทัศน์บริเวณสองข้างทางที่บดบังทัศนวิสัยให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องให้ความสำ คัญกับการดูแลเรื่องวิศวกรรม จราจรและความปลอดภัยของถนนในพื้นที่มากขึ้น หน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่มีการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์เรื่อง ความปลอดภัยทางถนนที่หลากหลายรูปแบบ ผ่านทุกช่องทาง อย่างเข้มข้น จริงจัง ต่อเนื่อง รวมทั้งขอให้ติดป้ายรณรงค์สร้างจิตสำนึก ในบริเวณที่เกิด อุบัติเหตุทางถนน หรือบริเวณที่เห็นชัดเจนให้ครอบคลุมทุกตำบล ทั้งนี้ การพัฒนาความปลอดภัยทางถนนไปสู่ความยั่งยืนได้นั้น ต้องอาศัย ความร่วมมือและการประสานงานจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังให้พื้นที่ในระดับตำบลสามารถลดผู้เสียชีวิตลงได้อย่างน้อย 1 รายจะมีผลทำให้ภาพรวมของประเทศมีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรม