Sea(group) ปั้น ‘Digital Talent’ 10 ล้านคนป้อนอุตสาหกรรมดิจิทัล

 Sea(Group) ประกาศปั้น‘Digital Talent’ 10 ล้านคนภายใน10 ปีป้อนตลาดในยุคการแข่งขันเศรษฐกิจดิจิทัล

ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลแรงงานที่เป็น ‘Digital Talent’ ถือเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างสูงการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะด้านดิจิทัลตามทันเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคนี้โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดแรงงานในอนาคต

รายงานจากกูเกิลและเทมาเส็ก(Google & Tamasek) คาดว่ายอดมูลค่าสินค้ารวม(Gross Merchandise Value : GMV) ในภาคเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นเป็น240 พันล้านดอลลาร์ภายในปี2025 จาก72 พันล้านดอลลาร์ในปี2018 จากทั่วทุกภาคอุตสาหกรรม

75% ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เห็นว่าการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นโอกาสที่ดีแต่มีเพียง16% ที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจได้จริงโดยผลวิจัยของบริษัทBain & Company พบว่าการขาดทักษะดิจิทัลและการศึกษาเป็นหนึ่งในอุปสรรคหลัก

ดร. สันติธาร เสถียรไทย Group Chief Economist แห่งSea (Group) กล่าวว่าวันนี้เวลาพูดถึงการปรับตัวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลมักพูดถึงแต่ด้านของHard Skill เช่นเขียนโค้ดทำโปรแกรมแต่ในด้านของSoft Skill เช่นทักษะความคิดสร้างสรรค์ทักษะเชิงวิพากษ์การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำในยุคดิจิทัลก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

ในมุมมองของSea เห็นว่าการพัฒนาทักษะดิจิทัลควรให้ความสำคัญทั้งHard Skill และSoft Skill ต้องมีการเตรียมพร้อม2 แบบคือ 

1. ต้องเตรียมคนให้มีความพร้อมในการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเช่นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอสามารถดึงความสามารถของเทคโนโลยีออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ซึ่งคนที่เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ข้อมูล(Data Scientists) จะมีความเข้าใจเรื่องเหล่านี้อย่างไรก็ตามหลายคนที่เรียนด้านนี้กลับบอกว่าความสำคัญไม่ใช่เรื่องโค้ดดิ้ง(Coding) เพราะภาษาโค้ดสามารถเปลี่ยนแปลงได้แต่ควรเข้าใจตรรกะวิธีคิดในการโค้ดดิ้งมากกว่า 

2.ทักษะพฤติกรรมหรือSoft Skill ในการทำงานร่วมกับคนอื่นเรื่องนี้สำคัญมากๆเพราะการทำงานเป็นทีมเวิร์คจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เทคโนโลยีทำแทนมนุษย์ไม่ได้

ภายใต้ยุทธศาสตร์“10 in 10 Initiative” Sea (Group) และบริษัทในเครืออาทิการีนา(Garena) ช้อปปี้(Shopee) และแอร์เพย์(AirPay) จะประยุกต์ใช้3 แกนหลักในการพัฒนาทักษะดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวันได้แก่ 

1.พัฒนาทักษะดิจิทัลแห่งอนาคตให้คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะเฉพาะด้านเช่นการโค้ดดิ้งพัฒนาเกมบริหารอีสปอร์ตและการพัฒนา‘Soft Skill’ ที่จำเป็นเช่นความคิดสร้างสรรค์และการทำงานเป็นทีม

2.กระจายความรู้และการเข้าถึงทักษะดิจิทัลอย่างทั่วถึงเพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านทักษะและการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล

3.สร้าง”สะพาน” เชื่อมโยงแต่ละภาคส่วนภายในอุตสาหกรรมอาทิภาคเอกชนภาคการศึกษาและภาคนโยบาย

โครงการที่เกี่ยวเนื่องกับยุทธศาสตร์“10 in 10 Initiative”  ที่ดำเนินการไปแล้ว อาทิ โครงการ‘Shopee Bootcamp’ โครงการที่ริเริ่มติดอาวุธทางความรู้พัฒนาทักษะให้แก่ผู้ขายและผู้ประกอบการรายย่อยและ‘Sea Scholarship’ โดยเป็นการสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่อร่วมพัฒนาศักยภาพบุคลากรสู่ตลาดแรงงานในยุคดิจิทัล

จากการสำรวจของIDC บริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยีชั้นนำพบว่ามีองค์กรภาคเอกชนราว30% ที่สามารถก้าวไปสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ ที่สำคัญแม้ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลถือเป็นการสร้างโอกาสให้แก่หลายๆธุรกิจแต่ในทางกลับกันการก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลจะสร้างความท้าทายให้แก่ธุรกิจแบบดั้งเดิมเช่นรูปแบบการจ้างงานที่มีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจากกรณีศึกษาของกลุ่มประเทศOECD พบว่าการก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลจะไม่ได้ลดปริมาณการจ้างงานทั้งในภาพรวมและภาคICT แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดคืองานในยุคดิจิทัลจะมีความต้องการแรงงานที่มีทักษะฝีมือสูงมากขึ้น

Sea (Group) คือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวันอาทิการีนา(Garena) ช้อปปี้(Shopee) และแอร์เพย์(AirPay) เปิดตัวยุทธศาสตร์“10 in 10 Initiative”