‘ยูเมะพลัส’ ปั้นทีมนักวิ่งอีลิทไทยสู่โอลิมปิก "โตเกียวเกมส์ 2020"

สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย และ บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ในฐานะผู้สนับสนุนหลักที่ทุ่มงบ 40 ล้านบาท เปิดตัวโครงการ "ยูเมะพลัส ดรีม มาราธอน" ยกระดับศักยภาพ ทีมนักวิ่งอีลิทมาราธอนทีมชาติไทยสู่เวทีระดับโลก โดยมีเป้าหมายสูงสุดที่โอลิมปิก "โตเกียวเกมส์ 2020" พร้อมมุ่งเป้าเพิ่มมูลค่าปอดเหล็กไทยให้เป็นที่ต้องการของนานาชาติ

พลตำรวจตรี สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการ สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะเจ้าภาพโครงการ กล่าวว่า โครงการ ยูเมะพลัส ดรีม มาราธอน นับเป็นมิติใหม่ของการวิ่งระยะไกลทีมชาติไทย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมืองไทยของการสร้างทีมนักวิ่งอีลิทชาวไทยให้มีศักยภาพเทียบเท่าระดับสากล โดยมีเป้าหมายหลักคือผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขันในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งการจะส่งนักกีฬาไปแข่งขันได้นั้น จะต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวเป็นอย่างดี เพราะนักกีฬาจะต้องเก็บคะแนนสะสมในทัวร์นาเมนท์ระดับเมเจอร์ต่างๆ เพื่อทำอันดับให้ได้ตามเกณฑ์ที่สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติกำหนด จึงเป็นที่มาของโครงการนี้ โดยการเฟ้นหานักวิ่งจำนวน 11 คน แบ่งเป็นทีม A จำนวน 5 คน และทีม B จำนวน 6 คน เซ็นสัญญาเข้าร่วมโครงการเพื่อร่วมฝึกซ้อมในเทรนนิงแคมป์โดยโค้ชระดับโลก พร้อมส่งเข้าแข่งขันในสนามระดับนานาชาติอย่างมีแบบแผนและต่อเนื่องเพื่อสะสมคะแนน ไม่ว่าจะเป็นที่ ชิคาโก มาราธอน, นิวยอร์ค มาราธอน และโตเกียว มาราธอน ตลอดจนทัวร์นาเมนท์ในประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 6 สนา

พันโทรุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพร่วม กล่าวว่า โครงการยูเมะพลัส ดรีม มาราธอน จะช่วยให้นักวิ่งทีมชาติไทยได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตัวเองจนสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในสนามระดับโลกได้ ซึ่งที่ผ่านมาแม้วงการวิ่งในเมืองไทยจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่นักวิ่งทีมชาติไทยโดยเฉพาะนักวิ่งไทยที่เป็นอีลิท ยังไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติมากเท่าที่ควร ดังนั้น โครงการนี้นอกจากจะเน้นด้านความเป็นเลิศโดยทำเวลาได้ดีขึ้นแล้ว ยังจะเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่นักวิ่งไทย ทำให้นานาชาติหันมาให้ความสนใจและเชิญไปวิ่งในฐานะนักวิ่งอีลิทตามทัวนาเมนท์ระดับสากลมากขึ้น นำมาซึ่งรายได้ของตัวนักวิ่งและชื่อเสียงของประเทศไทยในอีกทาง

นายฮิโตชิ โยโกฮามา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของโครงการที่ทุ่มงบ 40 ล้านบาทในการดำเนินโครงการ กล่าวว่า อีซี่บาย สนับสนุนการมีสุขภาพดีของคนไทย และสนับสนุนให้สังคมขับเคลื่อนไปด้วยประชากรที่มีสุขภาพกายและใจแข็งแรง ที่ผ่านมา ได้สนับสนุนงานวิ่งต่างๆ มาแล้ว 7 รายการในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา โดยการเข้าสนับสนุนโครงการยูเมะพลัส ดรีม มาราธอน ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นการช่วยส่งเสริมและผลักดันนักกีฬาทีมชาติไทย ให้ได้มีโอกาสเข้าสู่สนามการแข่งขันระดับโลกเพิ่มมากขึ้น พร้อมเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้วงการกีฬาวิ่งมาราธอนไทยยกระดับมาตรฐานให้ทัดเทียมกับต่างชาติได้ และมั่นใจว่าจะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างบุคลากรวิ่งที่มีศักยภาพออกสู่ตลาดวิ่งโลกได้ เนื่องจากนักวิ่งในโครงการนี้จะได้รับการพัฒนาศักยภาพในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านร่างกาย ตามโปรแกรมของโค้ชระดับโลก จนสามารถทำเวลาในการวิ่งได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งโครงการนี้จะเป็นก้าวแรกสำหรับผู้ที่เริ่มสนใจในการวิ่ง และสนับสนุนให้คนไทยรักสุขภาพ และหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น

พร้อมกันนี้ยังได้เชิญชวนประชาชนทั่วประเทศ ร่วมวิ่งไปด้วยกันกับทีมชาติไทยในรูปแบบเวอร์ชวลรัน (Virtual Run) ภายใต้แฮชแท็ก #เราวิ่งได้คุณวิ่งได้ หรือ Everyone Can Run โดยเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อร่วมวิ่งสะสมระยะทางให้ได้รวม 42.195 กม. ภายในเวลา 2 เดือน เพื่อรับเสื้อและเหรียญลิขสิทธิ์แท้จากโครงการ ทั้งนี้ยังได้รับสิทธิร่วมลุ้นจับฉลากไปเปิดประสบการณ์วิ่งฟูล มาราธอนในงาน Tokyo Marathon 2020 

สำหรับทีมนักวิ่งในโครงการ "ยูเมะพลัส ดรีม มาราธอน" จะวิ่งเปิดตัวในฐานะอีลิทสนามแรกในรายการ "ยูเมะพลัส เชียงราย 2019 21.1" ณ วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย ในวันที่ 7 ก.ค.62 ซึ่งถือเป็นรายการวิ่งน้องใหม่ที่ต้องการยกระดับให้เป็นต้นแบบมาตรฐานงานวิ่งระดับนานาชาติ ที่ดำเนินการตามแผนแม่บทของสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (IAAF)