วังหน้านฤมิต มิติแห่งกาลเวลา ผัสสะแห่งการเรียนรู้จากศิลปินร่วมสมัย

01 เม.ย. 2562 | 06:50 น.
อัปเดตล่าสุด :02 เม.ย. 2562 | 02:47 น.

จากข้อมูลของสำนักงานราชบัณทิตยสภา ขยายความถึงวังหน้าไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า ตำแหน่งวังหน้าหรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ คือ “กรมพระราชวังบวรสถานมงคล” เป็นตำแหน่งพระมหาอุปราช ศักดินา 100,000 ไร่ มีการสถาปนาตำแหน่งนี้ครั้งแรก ในรัชสมัยสมเด็จพระเพทราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา และแต่งตั้งสืบต่อมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ยุบเลิกตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล แล้วโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาตำแหน่ง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นแทนใน ปี 2429ต่อมาในปี 2430 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายมิวเซียมหลวงจากพระบรมมหาราชวังมาไว้ ณ พระราชวังบวรสถานมงคลหรือวังหน้าแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยใช้พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พระที่นั่งพุทไธสวรรย์และพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย  เป็นห้องจัดแสดงในยุคแรก จนกระทั่งในปี 2476 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลประกาศให้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครสังกัดกรมศิลปากร 

วังหน้านฤมิต มิติแห่งกาลเวลา ผัสสะแห่งการเรียนรู้จากศิลปินร่วมสมัย

  โดยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้สร้างอาคารจัดแสดงใหม่ ได้แก่ อาคารมหาสุรสิงหนาททางฝั่งใต้ อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ทางฝั่งเหนือ นับจากนั้น พิพิธภัณฑสถานที่วังหน้าได้ดำเนินการด้านการอนุรักษ์ ศึกษาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ จัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์โบราณคดีและศิลปกรรมของชาติแก่ประชาชนชาวไทยสืบต่อมาอย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในนั้น คือ  นิทรรศการพิเศษ เรื่อง “วังหน้านฤมิตในมิติแห่งกาลเวลา” โดยมี “คุณใหม่-สิริกิติยา เจนเซน” เป็นผู้รังสรรค์เพื่อเล่าเรื่องวังหน้าผ่านการตีความของศิลปินร่วมสมัย

  วังหน้านฤมิต ในมิติแห่งกาลเวลา คือ นิทรรศการแนวทดลองจากประวัติศาสตร์วังหน้าในมิติต่างๆ ผ่านงานศิลปะร่วมสมัย ถือเป็นการเก็บทุกเกร็ดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ มาเล่าในมุมมองใหม่ ตามความประสงค์ของคุณใหม่ที่ว่า “อยากให้มองประวัติศาสตร์ไทยช่วงนี้จากหลากหลายมิติ” จึงได้รวบรวมศิลปินร่วมสมัยและผู้เชี่ยวชาญจากวงการต่างๆ อาทิ นักภาษาศาสตร์ นักพฤกษศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ศิลป์ กวี นักร้องประสานเสียง นักออกแบบสิ่งทอ เชฟ ประติมากร และสถาปนิกนักดนตรีกว่า 20 ชีวิต ร่วมกันสืบค้น ศึกษาร่องรอยประวัติศาสตร์แล้วตกผลึกสู่การสร้างชิ้นงานตามความถนัด ยกตัวอย่างเช่น

  ภาพยนตร์ 16 มม. ความยาว 2.39 นาที จากคุณธณัฐชัย บรรดาศักดิ์ โดยมุมการเรียนรู้นี้นำเสนอการสร้างงานด้วยภาพยนตร์ 16 มม.ผ่านการทำงานของคนสวนประจำโรงละครแห่งชาติ ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เพื่อสื่อให้ผู้ชมมองเห็นมือคนสวนกำลังขูดลอกพืชพรรณออกจากร่องระหว่างแผ่นปูพื้นคอนกรีต จากร่องรอยหนึ่งไปอีกร่องรอยหนึ่ง สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างเวลา-สถานที่และการรับรู้  

วังหน้านฤมิต มิติแห่งกาลเวลา ผัสสะแห่งการเรียนรู้จากศิลปินร่วมสมัย

  ผลงาน One Million Years ของออน คาวารา ถูกคัดเลือกมาเฉพาะสำหรับนิทรรศการนี้ ซึ่งผลงานประกอบไปด้วยหนังสือ 2 เล่ม สำหรับเล่มที่ 1 คือ Past-For all those who have lived and died เขียนอุทิศแด่ ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่และผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ส่วนเล่มที่ 2 คือ Future-For the last one เขียนอุทิศแด่ ผู้มีชีวิตอยู่เป็นคนสุดท้าย ซึ่งทั้ง 2 เล่มคัดลอกด้วยตัวเลขจำนวน 2,000 หน้า ถูกจัดวางในรูปแบบเดียวกันตามความตั้งใจของศิลปิน สื่อสารถึงผู้ชมให้เข้าถึงวิธีคิดในเรื่องของเวลา พื้นที่ และการตระหนักรู้ของลมหายใจในการใช้ชีวิต

  อีกหนึ่งไฮไลต์ที่งดงาม คือ ห่วงเหล็กสลักตัวอักษร เนื้อเพลง ลาวแพน ภาษาไทยและภาษาลาว จำนวน 2 ชิ้น จากผลงาน  คุณนิพนธ์ โอฬารนิเวศน์ ผู้ค้นคว้าทางประวัติศาสตร์ ผ่านการสร้างผลงานศิลปะที่มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และพื้นที่ ทั้งในแง่กายภาพและเนื้อหาเชิงแนวคิด อีกทั้งยังมีการจัดทำแผนที่แบบมีส่วนร่วม เพื่อตามรอยความทรงจำท้องถิ่นของวังหน้า จากการทำเวิร์กช็อปร่วมกับนักเรียนและนักศึกษา รวมทั้งไปรษณียบัตรสุดสร้างสรรค์สำหรับแจกผู้เข้าชมงาน จากผลงาน กิติเชษฐ์ ศรีดิษฐ เป็นนักพฤกษศาสตร์ผู้ชื่นชอบงานจิตรกรรมฝาผนัง

  อย่างไรก็ดีตลอดการเยี่ยมชมนิทรรศการทุกคนจะได้สัมผัสกับศิลปกรรมวังหน้า อาทิ หมู่พระวิมานพระราชมณเฑียรที่ประทับใน 3 ฤดู อาทิ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย รวมทั้งยังสามารถเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น พระที่นั่งพุทไธสวรรย์  ทั้งนี้สำหรับภาพรวมของการนำเสนอมุ่งเน้นการเชื้อเชิญให้ผู้ชมเข้าถึงชิ้นงานโดยไม่ต้องใช้คำบรรยายใดๆ โดยกลุ่มงานดังกล่าวถือเป็นปรัชญาในการสร้างสถานการณ์เพื่อเร้าผัสสะต่างๆ รวมทั้งสื่อสารระหว่างผู้สร้างและผู้เสพงานศิลป์เติมเต็มกระบวนทัศน์ได้อย่างมีอรรถรส

วังหน้านฤมิต มิติแห่งกาลเวลา ผัสสะแห่งการเรียนรู้จากศิลปินร่วมสมัย

สำหรับนิทรรศการ วังหน้านฤมิต ในมิติแห่งกาลเวลา พร้อมต้อนรับและเปิดโอกาสให้ทุกคนร่วมกันเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของพระราชวังบวรสถานมงคล กับศิลปินร่วมสมัย และผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ตั้งแต่วันนี้-28 เมษายน 2562 ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร การเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในรูปแบบของการสื่อสารด้วยศิลปะร่วมสมัย นอกจากเชื่อมกาลเวลาหรือจำลองสถานการณ์ในอดีตให้เกิดมโนภาพและเร้าผัสสะต่างๆแล้ว  ยังสามารถสร้างความเข้าใจให้กับผู้สร้างและผู้เสพงานศิลป์ ตีความหมายและเติมเต็มกระบวนทัศน์ได้อย่างมีอรรถรสบนกรอบพื้นฐานความเป็นไทยได้อย่างภูมิใจและมีคุณค่า

 

หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,457 วันที่  31 มีนาคม - 3 เมษายน พ.ศ. 2562

วังหน้านฤมิต มิติแห่งกาลเวลา ผัสสะแห่งการเรียนรู้จากศิลปินร่วมสมัย