“สู้” วิถีสู่ความสำเร็จของนักขายระดับประเทศ
ทุจริต คอร์รัปชัน ข้อกล่าวหาร้ายแรง ที่ “เสี่ยเช-วรพจน์ ยศะทัตต์” ต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้องมากว่า 8 ปี เขาต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียด จากกรณีการจัดซื้อจัดจ้าง เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX รุ่น 9000 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในฐานะผู้รับเหมาช่วงงานจัดซื้อและติดตั้งทั้งระบบของอุปกรณ์ดังกล่าว
“ผมติดตรงนั้น 8 ปี บวกอาฟเตอร์ช็อกอีกเกือบ 2 ปี ถูกตรวจสอบในเรื่องที่เราไม่ได้ทำ เพราะฉะนั้นเราต้องสู้ สู้อย่างฉลาด และต้องสู้ด้วยความจริง เพราะถ้าเราโกหก ขณะที่ต้องถูกสอบทุกวันตลอด 8 ปี มันต้องพลาดเข้าสักวัน ถ้าโกหกก็ต้องมานั่งจำว่าโกหกอะไรไป แต่ผมไม่ต้องจำ เพราะผมตอบความจริง ถูกถาม ถูกตรวจสอบเมื่อไรก็ตอบเหมือนเดิม”
เรื่องของ “เสี่ยเช” อยู่กับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มา 8 ปี โดยไม่ได้ไปศาล และถูกตรวจสอบมากที่สุด โดยส่วนงานต่างๆ อาทิ ป.ป.ช. คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมบัญชีกลางการจัดซื้อจัดจ้าง ตำรวจนครบาล กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ กรมอัยการ
วันนี้ “เสี่ยเช” ได้พิสูจน์ตัวเองจนพ้นข้อกล่าวหาทั้งหมด และกลับมาทำธุรกิจที่ถนัด คือ การเป็นผู้รับเหมาช่วง (subcontractor) ด้วยสายสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพ ที่ได้ดิวงานกันมาตั้งแต่สมัยทำงานแรกๆ เหตุที่ชื่นชอบการทำงานกับทหาร เพราะการพูดคุยกันอย่างแมนๆ ตรงไปตรงมา ซึ่งเข้ากันได้ดีกับบุคลิกส่วนตัวของ “เสี่ยเช” สายสัมพันธ์ที่ดีนี้มีมาตั้งแต่เริ่มทำงานเป็นพนักงานขายที่ อิตัลไทย อุตสาหกรรม หลังเรียนจบวิศวะ ก็เข้ามาทำหน้าที่เป็นเซลส์ และด้วยความที่ไม่เกี่ยงงาน ขณะที่เพื่อนๆ ไม่ชอบงานขายที่ต้องติดต่อกับราชการ เพราะต้องมีขั้นตอนเยอะยุ่งยาก แต่เขาคนนี้ พร้อมลุย และนำเสนอสินค้าคุณภาพ จนได้รับการยอมรับ เริ่มต้นจากการขายประแจตัวเล็กๆ ต่อยอดไปสู่การซ่อมอุปกรณ์ทดสอบ ขายอะไหล่เครื่องบิน และก้าวไปสู่คนขายเครื่องบินในที่สุด
คอนเซ็ปต์ของนักขายคนนี้ เขาอธิบายสั้นๆ เข้าใจง่ายๆ ว่า ถ้ามีของ 5 อย่าง แล้วของที่เขาได้มา ไม่ใช่เบอร์ 1 ก็ไม่อยากขาย หรือ มี 10 อย่าง แต่ของในมือ ไม่ใช่เบอร์ 1 หรือ 2 เขาก็ไม่อยากขายอีกเช่นกัน และถ้ามีของ 100 อย่าง อันนี้เขาจะไม่ขายเลย เพราะคู่แข่งเยอะเกินไป
“เสี่ยเช” บอกว่า ทุกคนเป็นเซลส์แมน Everyone Lives by selling something. เป็นคำพูดของนักคิดนักเขียนชาวสก๊อต ที่ชื่อ Robert Louis Stevenson ไม่ว่าคุณจะเป็น นักธุรกิจ พ่อค้า ข้าราชการ ทหาร นักการเมือง หรืออะไรก็ตาม ทุกคนต้องเป็นนักขาย ขายความรู้ ไอเดีย นโยบาย รูปร่างหน้าตา ความสามารถ แต่สิ่งที่ต้องทำควบคู่กับการขาย คือ ความซื่อสัตย์ ความจริงใจ และความน่าเชื่อถือ เมื่อเปิดการขายแล้ว ก็ต้อง “สู้” ลุยเต็มที่ กัดไม่ปล่อย...นี่คือเส้นทางสู่ความสำเร็จของนักขาย
ด้วยบุคลิก และการทำงานที่มุ่งมั่น นักขายคนนี้จึงถูกเชื้อเชิญให้เข้าไปทำหน้าที่เป็นบอร์ดบริหารให้กับหลายๆ องค์กร และเคยเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่มาแล้ว ก่อนจะมานั่งทำหน้าที่เป็น ประธานบริษัท Indra Sistemas AS บริษัทจากสเปน ซึ่งทำธุรกิจด้านการขนส่ง (transportation) เป็นบริษัทด้านไอทีที่มีผลิตภัณฑ์และบริการในธุรกิจ 3 ส่วน คือ ไอที อุปกรณ์จำลองและทดสอบแบบอัตโนมัติ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางทหารโดยล่าสุด ได้ปิดดิว การขายและติดตั้งเรดาร์ป้องกันภัยทางอากาศ ที่ดอยอินทนนท์ ให้กับกองทัพอากาศ ไปเมื่อปีที่แล้ว มูลค่า 600-700 ล้านบาท และกำลังเจรจาติดตั้งระบบตั๋วให้กับรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง ซึ่งคาดว่าจะสรุปจบภายในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ และยังมีงานโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ ที่จ่อคิวรอการปิดดิวอีกพอสมควร รวมไปถึงโปรเจ็กต์เครื่องบินขับไล่ ของกองทัพอากาศด้วย
ธุรกิจที่นักขายระดับประเทศคนนี้เข้ามาจับ ถือเป็นงานที่มีเสน่ห์ยั่วยวน และมีความท้าทายมากมาย ขณะเดียวกันคู่แข่งก็มีไม่มาก แต่รายได้จัดว่ามหาศาลเลยทีเดียว ยิ่งถ้าปิดการขายได้สำเร็จ ความภาคภูมิใจที่ได้ ก็คือ อีกหนึ่งความเย้ายวนที่น่าสัมผัส และต้องสัมผัสให้ได้เสมอ และหนึ่งในโครงการที่นักขายผู้นี้ มีความภาคภูมิใจมากๆ ก็คือ เครื่องบินฝนหลวง ของกองทัพอากาศ หรือเครื่องบิน BT-67 จากสหรัฐอเมริกา ที่ทำภารกิจมาแล้วทั้งการสร้างฝน สู้ไฟ กำจัดฝุ่น กําจัดหมอกควัน
เมื่อย้อนถามว่า การที่เคยถูกกล่าวหา “ทุจริต คอร์รัปชัน” มาก่อน เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจบ้างหรือไม่ “เสี่ยเช” บอกเลยว่า มันคือเครื่องหมายการค้าสำหรับตัวเขาไปแล้ว แน่นอนว่า มันเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ขณะเดียวกัน ก็เป็นเหมือนเครื่องหมายการันตีความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้า การถูกตรวจสอบมากมายในวันนั้น เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า เขาคือคนที่ทำธุรกิจแบบตรงไปตรงมา เชื่อถือได้ ไว้ใจได้ ทำให้เขายังได้รับการยอมรับจากพาร์ตเนอร์ธุรกิจทั้งหลาย ในวันนี้ “เสี่ยเช” จึงเดินหน้าลุยงานเต็มที่ ทั้งกับบริษัท Indra Sistemas AS หรือบริษัทท่ี่เข้าไปเป็นที่ปรึกษา และบริษัท แพทริออท บิซิเนส คอนซัลแตนส์ จำกัด ซึ่งทำเรื่องจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX ในตอนนั้น รวมถึง บริษัท ไทยโทรนิค จำกัด ที่ทำหน้าที่รับเหมาช่วง
“เสี่ยเช” ยังคงลุยงานหนัก ติดต่องานโปรเจ็กต์มากมาย แต่สิ่งที่เขาไม่ลืม คือ การมีเวลาให้กับครอบครัว ให้ลูกๆ พ่อแม่ ผู้มีพระคุณ และเพื่อน รวมถึงเวลาสำหรับการออกกำลังกาย แม้ตอนนี้เขายังทำได้ไม่เต็มที่ แต่เจ้าตัวยืนยันว่า กำลังปรับปรุงอย่างเต็มที่ และอยากฝากให้ทุกๆ คน ตระหนักถึงเรื่องเหล่านี้ด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อถึงวันที่ชีวิตมีปัญหา ตัวของเราเอง และครอบครัว คือ คนที่จะอยู่กับเราตลอดเวลา
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,450 วันที่ 7 - 9 มีนาคม พ.ศ. 2562
