Play
หนี้สาธารณะสิ้นมกราฯลดกว่า 2.43 หมื่นล้าน
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
สบน.เผยหนี้สาธารณะสิ้นมกราคม 5.98 ล้านล้านบาท 44.06% ของจีดีพี ลดลงสุทธิ 2.43 หมื่นล้านบาท ขณะที่รัฐกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 2.39 หมื่นล้านบาท / ผลของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินลดลงกว่า 1.2 พันล้านบาท
นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยถึงหนี้สาธารณะคงค้างสิ้นเดือนมกราคม 2559 ว่า มีจำนวน 5.98 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 44.06% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมกราคม ลดลงสุทธิ 2.43 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นหนี้ของรัฐบาล 4.38 ล้านล้านบาท ลดลง 2.28หมื่นล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.04 ล้านล้านบาทลดลง 431 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 5.31 แสนล้านบาท ลดลง 1,137.60 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 1.74 หมื่นล้านบาท ลดลง 5.09 ล้านบาท
สำหรับหนี้ของรัฐบาล 4.38 ล้านล้านล้านบาท มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ได้แก่ การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 2.39 หมื่นล้านล้านบาท การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศกว่า 8.86 พันล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.04 ล้านล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงเกิดจากผลของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้หนี้ต่างประเทศสกุลต่างๆ ลดลง 1,280.83 ล้านบาท การเบิกจ่ายมากกว่าการชำระหนี้เงินต้น ทำให้หนี้เพิ่มขึ้น 849.83 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการเบิกจ่ายเงินกู้ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อใช้ในการบริหารสภาพคล่องปี 2558 จำนวน 1,511 ล้านบาท และการเบิกจ่ายเงินกู้ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อใช้ในการดำเนินการก่อสร้างทางพิเศษบูรพาวิถีและทางพิเศษสายบางพลี–สุขสวัสดิ์ 1,900 ล้านบาท
นอกจากนี้ หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 5.31 แสนล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระหนี้เงินต้นของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กู้มาเพื่อดำเนินโครงการรับจำนำผลิตผลทางการเกษตร 1,051 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 1.74 หมื่นล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระหนี้เงินต้นของสำนักงานธนานุเคราะห์ จำนวน 14.89 ล้านบาท
ทั้งนี้ หนี้สาธารณะสิ้นเดือนมกราคม 5.98 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ในประเทศ 5.63 ล้านล้านบาทหรือ 94.14% และหนี้ต่างประเทศ 3.50 แสนล้านบาท (ประมาณ 9.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)หรือ 5.86% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด แบ่งเป็นหนี้ระยะยาว 5.68 ล้านล้านบาทหรือ 95.14% และหนี้ระยะสั้น 2.90 แสนล้านบาท หรือ 4.86% ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,140 วันที่ 17 - 19 มีนาคม พ.ศ. 2559
นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยถึงหนี้สาธารณะคงค้างสิ้นเดือนมกราคม 2559 ว่า มีจำนวน 5.98 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 44.06% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมกราคม ลดลงสุทธิ 2.43 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นหนี้ของรัฐบาล 4.38 ล้านล้านบาท ลดลง 2.28หมื่นล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.04 ล้านล้านบาทลดลง 431 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 5.31 แสนล้านบาท ลดลง 1,137.60 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 1.74 หมื่นล้านบาท ลดลง 5.09 ล้านบาท
สำหรับหนี้ของรัฐบาล 4.38 ล้านล้านล้านบาท มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ได้แก่ การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 2.39 หมื่นล้านล้านบาท การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศกว่า 8.86 พันล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.04 ล้านล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงเกิดจากผลของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้หนี้ต่างประเทศสกุลต่างๆ ลดลง 1,280.83 ล้านบาท การเบิกจ่ายมากกว่าการชำระหนี้เงินต้น ทำให้หนี้เพิ่มขึ้น 849.83 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการเบิกจ่ายเงินกู้ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อใช้ในการบริหารสภาพคล่องปี 2558 จำนวน 1,511 ล้านบาท และการเบิกจ่ายเงินกู้ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อใช้ในการดำเนินการก่อสร้างทางพิเศษบูรพาวิถีและทางพิเศษสายบางพลี–สุขสวัสดิ์ 1,900 ล้านบาท
นอกจากนี้ หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 5.31 แสนล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระหนี้เงินต้นของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กู้มาเพื่อดำเนินโครงการรับจำนำผลิตผลทางการเกษตร 1,051 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 1.74 หมื่นล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระหนี้เงินต้นของสำนักงานธนานุเคราะห์ จำนวน 14.89 ล้านบาท
ทั้งนี้ หนี้สาธารณะสิ้นเดือนมกราคม 5.98 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ในประเทศ 5.63 ล้านล้านบาทหรือ 94.14% และหนี้ต่างประเทศ 3.50 แสนล้านบาท (ประมาณ 9.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)หรือ 5.86% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด แบ่งเป็นหนี้ระยะยาว 5.68 ล้านล้านบาทหรือ 95.14% และหนี้ระยะสั้น 2.90 แสนล้านบาท หรือ 4.86% ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,140 วันที่ 17 - 19 มีนาคม พ.ศ. 2559