'เอสเอ็มอี' ดิ้น! ปรับไลน์ผลิตสู่โหมดไฮเทค

"Thai Subcon" หนุนเอสเอ็มอีเข้าสู่โหมดอุตฯอากาศยาน, หุ่นยนต์, เครื่องมือแพทย์ ล่าสุด รายเก่าแห่ปรับไลน์ผลิตแล้ว 100 ราย และกำลังเดินสายเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่อีก 300 ราย คาดไม่เกิน 2 ปี หนุนยอดสมาชิกรับช่วงผลิตโตกว่า 1,000 ราย เกิดเงินสะพัดในระบบกว่า 5 แสนล้านบาท

สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (Thai Subcon) ประเมินว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ฐานการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จะลดลงตามทิศทางตลาดโลกที่กำลังเข้าสู่โหมดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถอีวี มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศที่ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์เป็นจำนวนมาก ทยอยปรับไลน์ผลิตให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการสร้างฐานอุตสาหกรรมไทยให้มีศักยภาพสูงขึ้น

 

[caption id="attachment_299549" align="aligncenter" width="426"] ชนาธิป สุรชัยสิทธิกุล
นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (Thai Subcon)[/caption]

นายชนาธิป สุรชัยสิทธิกุล นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (Thai Subcon) ให้สัมภาษณ์ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์เริ่มซบเซาลง เมื่อค่ายรถยนต์เตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่รถยนต์ในอนาคตมากขึ้น โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถอีวี ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นสมาชิกอยู่ใน Thai Subcon ต้องรีบปรับตัว เนื่องจากสมาชิกรวมทั้งหมดที่มีในขณะนี้ 500 รายนั้น มีสัดส่วน 70-80% ที่เป็นผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จะทำให้ชิ้นส่วนบางอย่างหายไป สมาชิกจำเป็นต้องปรับตัวไปสู่อุตสาหกรรมสาขาที่ใกล้เคียงกับไลน์ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้มากที่สุด และพบว่า ใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ที่รัฐบาลกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการลงทุนนั้น ในเบื้องต้น มี 3 กลุ่มอุตสาหกรรมใกล้เคียงที่สุดที่จะทำให้ผู้ประกอบการที่มีโรงงานอยู่แล้ว สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ประกอบด้วย การผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับอุตสาหกรรมอากาศยาน หุ่นยนต์ และเครื่องมือแพทย์ (รวมเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับสุขภาพผู้สูงอายุ)

"อากาศยาน หุ่นยนต์ และเครื่องมือแพทย์ จะเป็นกลุ่มนำร่องก่อน มีความใกล้เคียงกับระบบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เพียงแต่จะต้องมาดูเรื่องมาตรฐานต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป ซึ่งปัจจุบัน ในอุตสาหกรรมยานยนต์ใช้มาตรฐาน IATF16949 และมาตรฐานอากาศยาน คือ AS9100 และมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ TS13485 ซึ่งการปรับตัวต้องใช้เวลาเตรียมพร้อมในเรื่องมาตรฐานอย่างน้อย 2 ปี"




นายชนาธิป กล่าวอีกว่า หลังจากที่ Thai Subcon มีการสนับสนุนปรับไลน์ผลิตไปสู่การเชื่อมโยง 3 กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ดังกล่าวแล้ว ทำให้สมาชิกเก่าในจำนวน 500 รายนั้น จะมีประมาณ 100 ราย ที่ได้ปรับตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมอากาศยาน หุ่นยนต์ และเครื่องมือแพทย์แล้ว และจะมีผู้ประกอบการรายใหม่ที่ยังไม่เคยเข้ามาเป็นสมาชิก และเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน หุ่นยนต์ เครื่องมือแพทย์อีกราว 200-300 ราย ที่สนใจจะเข้ามาเป็นด้วย คาดไม่เกิน 2-3 ปีจากนี้ไป หรือราวปี 2562-2563 สมาชิกรับช่วงผลิตจะเติบโตกว่า 1,000 ราย และจะเกิดเงินสะพัดในระบบเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันกว่า 2 แสนล้านบาท จะเพิ่มเป็นกว่า 5 แสนล้านบาท จากการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมใหม่ที่มีความทันสมัยและไฮเทคมากขึ้น จนไปสู่การขายที่มีมูลค่าต่อชิ้นสูงขึ้นตามมา




สำหรับกลุ่มชิ้นส่วนอากาศยานจะประกอบด้วยชิ้นส่วนสำหรับการผลิตเครื่องบินและชิ้นส่วนสำหรับซ่อมบำรุงอากาศยาน หรือ MRO (Maintenance, Repair and Overhaul : MRO) เช่น อะไหล่สำหรับใช้ในห้องโดยสาร นอกจากนั้นจะเป็นกลุ่มชิ้นส่วนที่ใช้ในสนามบิน เช่น อุปกรณ์ลำเลียงกระเป๋าระบบออโตเมชันภายในสนามบิน รถเข็นที่ใช้ในสนามบิน เป็นต้น โดยเริ่มแรกจะเน้นไปที่อุปกรณ์ที่ไม่ได้เน้นเรื่องความปลอดภัยขั้นสูง เช่น อุปกรณ์ในครัว อุปกรณ์ลำเลียงกระเป๋า เป็นต้น

นายปิยะ สุทันต์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยานและโลจิสติกส์ สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย กล่าวว่า อีก 2 ปี สมาชิกในกลุ่มรวมทั้งหมดรวมกัน จะเกิดเงินสะพัดในกลุ่มได้ตามเป้าที่กว่า 5 แสนล้านบาท เพราะนอกจากสินค้าที่ผลิตออกมาจะมีคุณภาพสูงขึ้นแล้ว บทบาทของเอสเอ็มอีไทยจะค่อย ๆ เลิกเป็นผู้รับจ้างผลิต (OEM) แต่เป้าหมายจะไปสู่การสร้างแบรนด์ของตัวเองมากขึ้น รวมถึงมีช่องทางการจำหน่ายกว้างขึ้น




"วันที่ 20 ก.ค. Thai Subcon และกลุ่มคลัสเตอร์การบิน จัดงานเสวนา "อุตสาหกรรมการบินและอากาศยาน" ที่อาคารกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรมกล้วยน้ำไท เพื่อทราบถึงแผนงานและเป้าหมายของกลุ่มการบิน จะมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐและเอกชนในด้านนี้มาร่วมงาน คนที่เข้ามาฟังจะต้องรู้ถึงกระบวนการที่ผู้ผลิตจะต้องเข้าถึงตลาดอากาศยานได้ รวมถึงรู้เรื่องมาตรฐานต่าง ๆ โดยคนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าฟังการเสวนาได้ จะต้องมีคุณสมบัติที่พร้อม มีเงินทุนพัฒนา มีความสามารถเฉพาะด้าน มีความมุ่งมั่น รับจำนวนจำกัดราว 50-60 คนเท่านั้น ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการเข้ารับฟังครั้งนี้"


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,383 วันที่ 15-18 ก.ค. 2561 หน้า 01-02

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● พาณิชย์นำทัพเอสเอ็มอี! จัดงานแฟร์เฉียด 100 โครงการ หนุนครัวไทยสู่ครัวโลกครบวงจร
● สมาร์ทเอสเอ็มอี | ผงปรุงรส 'ไทเชฟ' ไขก๊อก 2 บุกมาเลย์-อินโดฯ ดันเป้าโต 20%