ถึงคิวเที่ยวเพื่อชาติผุดไอเดียจ่าย1พันลุ้นชิงล้านทุกเดือน

ททท.ผนึกเอกชนดันไอเดียกระตุ้นต่อมเที่ยวเสนอรองนายกฯ“สมคิด” ทั้งผุดแคมเปญ “เที่ยวไทยลุ้นล้าน” สร้างอิมแพ็กต์ขับเคลื่อนโลคัล ทัวริซึม นำจ่ายค่าที่พักนำเที่ยวทุก 1 พันบาท ลุ้นคูปองชิงโชคเงินล้านทุกเดือน ส่วนกินอาหารครบ 500 บาท ลุ้นรับส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบิน แพ็กเกจ ค่าพักหนุนแจกคูปองข้าราชการเกษียณเที่ยว กระตุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่พาพนักงานเที่ยวครบหมื่นคนรับโล่จาก “บิ๊กตู่”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าในการเดินทางมาประชุมกลุ่มย่อย ระหว่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีการหารือร่วมกับนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้บริหาร ททท.ตัวแทนภาคเอกชนและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องที่ททท.ในวันที่ 11 มกราคมนี้ เรื่องหลักจะเป็นการผลักดันการท่องเที่ยวภายในประเทศหรือโลคัล ทัวริซึม เป็นหลัก

"ททท.และภาคเอกชน ได้มีการร่วมหารือกันเบื้องต้น เพื่อนำเสนอแนวคิดการจัดทำโครงการเกี่ยวกับการเที่ยวแล้วลุ้นโชค ลุ้นรางวัล ให้รองนายกฯสมคิด พิจารณาเนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระตุกและสร้างกระแสให้เกิดการเดินทางเที่ยวในประเทศได้ทันที รวมทั้งยังจะจัดทำโครงการที่ช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้การเดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มผู้เกษียณอายุ และการทัศนศึกษาของกลุ่มเยาวชนด้วย"

นอกจากนี้ยังเป็นการตอบโจทย์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของททท.ใน 3 เรื่องหลักได้แก่ 1.ส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้เกิดการกระจายตัวสู่ท้องถิ่น 2.กระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศและ 3.การส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงวันหยุดยาวในปีนี้ที่มีช่วงวันหยุดยาวถึง 11 ช่วง ที่จะต้องไปคิดว่าจะต้องจัดบิ๊กอีเวนต์ในช่วงวันหยุดยาว ที่จะดึงให้คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ มากกว่าการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ

ผู้ว่าการ ททท.กล่าวต่ออีกว่าในการประชุมครั้งนี้จะมีการรายงานความคืบหน้าในการเปิดตัว Roadside Station หรือสถานีริมทาง ภายในปั๊มน้ำมันปตท. 148 แห่ง ที่รัฐบาลได้สนับสนุนงบกลางมาให้แล้ว 148 ล้านบาท (การลงทุนเฉลี่ยแห่งละ 1 ล้านบาท) ซึ่งภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเร่งผลักดันให้เปิดได้ 5-10 แห่ง โดยเลือกขึ้นมาภูมิภาคละ 2 แห่ง ซึ่งสถานีริมทางที่จะเกิดขึ้นนี้ จะมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น คล้ายแนวคิดของประเทศญี่ปุ่น ที่จะมีจุดแวะพักริมทาง เพื่อเปิดพื้นที่ให้ท้องถิ่นนำสินค้าโอท็อปจากพื้นที่รวมถึงการขายสินค้าเกษตรตามฤดูกาล เข้ามาวางขายให้นักท่องเที่ยว ที่จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยลดผลกระทบเรื่องของภัยแล้งที่จะยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่องของภาคเกษตรกร

ด้านนายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.)และนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) กล่าวว่า ในการประชุมร่วมกับรองนายกสมคิด ในวันที่ 11 มกราคมนี้ภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) สทน. และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า)และททท. จะนำเสนอโครงการ "เที่ยวไทยลุ้นล้าน"ที่จะใช้เป็นแคมเปญพิเศษ เพื่อกระตุ้นการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวภายในประเทศโดยทุก 1 พันบาทในการจ่ายค่าที่พักหรือจองรายการนำเที่ยวในประเทศ ก็จะได้รับคูปองลุ้นโชคชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท ที่จะมีการจับรางวัลทุกเดือน เดือนละ 1 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีการเสนอ โครงการแจกคูปองส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบิน ส่วนลดค่าแพ็กเกจ ส่วนลดค่าที่พัก มูลค่า 500 บาทหรือ 1 พันบาท สำหรับคนไทยที่เดินทางไปใช้บริการร้านอาหารต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการรับประทานอาหารครบ 500 บาท ก็มีสิทธิจับคูปอง ลุ้นโชคส่วนลดดังกล่าว โดยภาคธุรกิจท่องเที่ยว จะนำคูปองส่วนลดที่มีการนำมาใช้ ไปเบิกเงินกับ ททท.ในภายหลัง

อีกทั้งยังจะเสนอโครงการที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กนักเรียน โดย ททท.จะเข้าไปสนับสนุนเงินขวัญถุง หรือค่าอาหารกล่อง ให้กับโรงเรียน ที่เพิ่มกิจกรรมทัศนศึกษาให้เด็กนักเรียนเพิ่มอีกอย่างน้อย 1 ครั้ง จากปกติที่โรงเรียนมีการจัดทัศนศึกษาของตัวเองอยู่แล้วปีละ 1 ครั้ง ซึ่งโรงเรียนไหนที่สนใจ ก็จะให้แจ้งความจำนงไปยัง ททท.

ส่วนโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในกลุ่มผู้สูงอายุ ก็จะเสนอเรื่องการแจกคูปองท่องเที่ยว มูลค่า 5 พันบาทหรือ 1 หมื่นบาท ให้กับข้าราชการที่มีกำหนดเกษียณอายุภายในปีงบประมาณ 2559 ให้ไปเที่ยว ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ ถ้าไปเที่ยว ก็มีโอกาสที่จะใช้เงินมากกว่าคูปองที่แจก ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว ที่จะเกิดขึ้นของคนที่จะพาผู้เกษียณอายุไปเที่ยวด้วย และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่มีการจ่ายเพิ่มขึ้น นอกจากคูปองที่แจกให้เที่ยวฟรี ก็สามารถเข้าร่วมในโครงการ "เที่ยวไทยลุ้นล้าน" ได้อีกด้วย

รองประธานสทท. กล่าวอีกว่า ยังจะนำเสนอแผนกระตุ้นให้บริษัทคอร์ปอเรตรายใหญ่ 30 แห่งในไทย เข้าร่วมโครงการเที่ยวช่วยชาติ โดยสนับสนุนให้บริษัทระดับท็อป ที่มียอดรายได้สูง อาทิ ปตท.,ซีพี ,สหพัฒน์, สิงห์ คอร์ปอเรชั่น, บริษัทไทยเบฟเวอร์เรจ นำพนักงาน หรือพันธมิตรทางการค้า เดินทางเที่ยวในประเทศ โดย ททท.จะสนับสนุนในเรื่องของกิจกรรมการแสดงต่างๆ และตั้งเป้าว่าหากภายใน 3 เดือนนี้ หรือไม่เกินเดือนเมษายนนี้ หากพาพนักงานหรือพันธมิตรทางการค้า ไปเที่ยวจำนวน 1 หมื่นคนต่อบริษัท ก็จะได้รับมอบโล่ จากนายกรัฐมนตรี เพราะถือว่าบริษัทเหล่านี้ได้ดำเนินงานด้านซีเอสอาร์ ในด้านของการท่องเที่ยวเพื่อช่วยชาติ

"โครงการต่างๆ เหล่านี้ สทน.คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 25% ซึ่งในการประชุมร่วมกับรองนายกฯสมคิดครั้งนี้จะมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวอีกหลายภาคส่วน เช่น สายการบินต่าง ๆ หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ดังนั้นก็เชื่อว่าจะทำให้โครงการที่จะนำเสนอเหล่านี้ ได้รับการสนับสนุนจากภาคธุรกิจอื่นเพิ่มขึ้นอีกรวมถึงการเชื่อมโยงหรือต่อยอดโครงการที่จะเป็นเครือข่ายในการกระตุ้นการเดินทางเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าต้องจัดทำคูปอง "เที่ยวไทยลุ้นล้าน"ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านใบ"

ขณะเดียวกัน สทน.ยังได้เสนอให้รัฐบาลพิจารณาต่ออายุมาตรการภาษีส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ และขอขยายกรอบวงเงินการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศ สำหรับค่าใช้จ่ายที่พัก และค่าบริการนำเที่ยวในประเทศ จากวงเงินจ่ายจริงไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ขยับมาเป็น 3 หมื่นบาท เพราะวงเงินเดิมยังไม่จูงใจพอ ทำให้มาตรการนี้จึงไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร ซึ่งได้เสนอเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีท่องเที่ยวพิจารณาแล้ว เพื่อเตรียมนำเสนอครม.พิจารณาต่อไป นายยุทธชัยกล่าวทิ้งท้าย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,121 วันที่ 10-13 มกราคม พ.ศ. 2559