ที่นี่ไม่มีความลับ : พิรุธ 4 ประเด็นขายหุ้นนกแอร์ เอื้อประโยชน์พรรคพวกการบินไทย – หลานสุริยะทำดีลฉาว

02 มิ.ย. 2560 | 11:13 น.
อัปเดตล่าสุด :02 มิ.ย. 2560 | 18:13 น.
ที่นี่ไม่มีความลับ

โดย…เอราวัณ
พิรุธ 4 ประเด็นขายหุ้นนกแอร์ เอื้อประโยชน์พรรคพวกการบินไทย – หลานสุริยะทำดีลฉาว

มีข้อสังเกตต่อการเพิ่มทุนของ “นกแอร์” ที่บริษัทการบินไทยเคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 39.20% แต่หลังเพิ่มทุนที่ “การบินไทย” ไม่ใช้สิทธิ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของการบินไทยลดลงมาเหลือ 21.57% มองตามรายชื่อในทางนิตินัยยังถือครองหุ้นอันดับ 1 แต่ทางพฤตินัยจะถือหุ้นอันดับ 2 เพราะกลุ่ม "จุฬางกูร" ของ เครือ "ซัมมิท" เครือข่ายเครือญาติ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นอันดับ 1 แทน ด้วยสัดส่วนที่รวมกันถึง 28.93%

01 02

มองดูจากรายชื่อสัดส่วนการเพิ่มทุนจากก่อนและหลัง พบความผิดปกติที่ต้องตั้งคำถามหลายข้อ (ขอ 4 คำถามเลียนแบบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) จึงขอตั้งถามดังนี้

1.การบินไทยมีมติจะไม่เพิ่มทุนในนกแอร์ แต่เหตุใดการบินไทยจึงส่งคนไปประชุมผู้ถือหุ้น และลงมติสนับสนุนการเพิ่มทุนแล้วบริษัทการบินไทย ไม่ใช้สิทธิ การกระทำดังกล่าวเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มผู้ถือหุ้นบางกลุ่มใช้สิทธิเกินสิทธิในราคาหุ้นละ 2.40 บาท ใช่หรือไม่

2.กลุ่มที่ได้รับจัดสรรเกินสิทธิเป็นเครือญาติกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.คมนาคม ที่กำลังถูกคณะกรรมการป.ป.ช.ตั้งกรรมการสืบสวนว่าเป็น 1 ใน 26 ผู้ที่เกี่ยวพันกับกรณีสินบนโรลส์-ลอยซ์ของการบินไทย ถือว่าเป็นการให้สิทธิกับผู้จองหุ้นเกินสิทธิที่เหมาะสมและมีธรรมาภิบาลหรือไม่ (มีตัวแทนของการบินไทย นั่งเป็นผู้บริหารหรือกรรมการนกแอร์ถึง 4 คน สมยอมเรื่องนี้ได้อย่างไร)

3.การที่ ณัฐพล และ ทวีฉัตร จุฬางกูร พี่น้องคลานตามกันมา เพราะเป็นลูกชายสรรเสริญ จุฬางกูร ทั้ง 2 คนเข้าถือหุ้นในสัดส่วนนับรวมกันได้ถึง28.93% (ถือหุ้นข้ามสัดส่วน 25% ตามกฎหมาย) เหตุใดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไม่สั่งให้มีการทำคำชี้แจงและไม่สั่งให้ทำ tender offer หรือตั้งโต๊ะเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นรายย่อยตามระเบียบและกฎหมาย

พาที สารสิน ซึ่งบริหารในฐานะ ซีอีโอ ของนกแอร์ บริหารมา 8 ปี ทำให้กิจการขาดทุนจนแทบล้มละลาย กลับไม่เพิ่มทุน และไม่เห็นแสดงความรับผิดชอบอะไรบ้าง (นอกจากที่เราเห็นภาพปากเก่งในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา) นอกจากความรับผิดชอบแล้ว ไฉน พาที ถึงไม่เพิ่มทุนตามสิทธิ? (เดิมถือหุ้น 2.02% หลังเพิ่มทุนถือสัดส่วนลดลงเหลือ 1.29% เป็นเพราะรู้ข้อมูลภายในใช่หรือไม่ว่าเป็นบริษัทที่งบการเงินไม่ดี จึงใช้สิทธิไม่เต็มจำนวน

4.ผู้ใช้สิทธิเกินสิทธิในราคาต่ำ จะทำกำไรโดยเอาหุ้นที่ได้มาเสมือนลาภที่ไม่ควรได้ ไปขายต่อให้ใคร (อาจจะต้องติดตามต่อ) และก.ล.ต. และหน่วยงานการตรวจสอบทุจริต (เชิงนโยบาย) จะนิ่งเฉยหรือตรวจสอบต่อไปอย่างไร

"4 คำถามเรื่องนกแอร์ข้างต้น" คงเป็นมหากาพย์ที่ต้องขุดคุ้ยกันอีกนาน ต่อให้ใครบางคนจะไปฟ้อง “พ่อ” แบบที่ผ่านมาก็ไม่สามารถแก้ไขได้เปรียบดัง "ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด"

คอลัมน์ : ที่นี้ไม่มีความลับ /หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ /  ฉบับ 3267 ระหว่างวันที่ 4-7 ม.ค.2560