Play
แอร์ส่งดาราไล่ล่าแชร์ ชูกลยุทธ์พรีเซนเตอร์ ชิงตลาด 3 หมื่นล้าน
แอร์ฟาดกันเดือด งัด “พรีเซนเตอร์มาร์เก็ตติ้ง” กระตุ้นยอดหน้าร้อน ขนดาราแม่เหล็กตัวท็อปของเมืองไทย ทั้งนาย-นภัทร/ณเดชน์/ซันนี่/โป๊ป /แต้ว /ชมพู่-อารยา ชิงตลาด3 หมื่นล้านบาท
ช่วงเวลานี้ ไม่กล่าวถึงตลาดเครื่องปรับอากาศไม่ได้ เพราะเป็นธุรกิจที่แปรผันกับอุณหภูมิกล่าวคือ ยิ่งอากาศร้อนมาก ยอดขายยิ่งดี จากดีมานด์ที่เพิ่มสูงขึ้น แน่นอนว่าซัพพลายย่อมต้องปรับให้ทัน ตอบโจทย์ให้โดนใจ สิ่งสำคัญคือ การตลาดที่จะช่วยให้ถูกผู้บริโภคเลือกซื้อ และต้องไม่ใช่แค่โปรโมชัน หรือบริการหลังการขายที่แต่ละแบรนด์ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก วันนี้ "ตลาดแอร์" จึงแข่งขันกันที่อีโมชัน กลยุทธ์ "พรีเซนเตอร์ มาร์เก็ตติ้ง" จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ
เริ่มกันที่ "แอลจี"ที่ประกาศเดินเครื่องรุกตลาดด้วยการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนใหม่"ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" เข้ามาเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ทั่วถึงโดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด ที่ปัจจุบันเริ่มมีการเติบโตของกลุ่มเครื่องปรับอากาศเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากอัตราการครอบครองยังน้อยกว่าพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะอัตราการครอบครองเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น หรือ 30% ในปี 2559 และในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 40-50% และคาดว่าในช่วง 2 ปีจากนี้ จะเพิ่มเป็น 70-80% และอาจจะเป็น 100% ได้ภายใน 5 ปีจากนี้
นายนิพนธ์ วงค์แสงอรุณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย)ฯ เปิดเผยว่า บริษัทได้วางงบการตลาดในปีนี้กว่า 300 ล้านบาทใช้จัดกิจรรมส่งเสริมการขายครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้าและตัวแทนจำหน่าย ในรูปแบบบีโลว์ เดอะไลน์ และอะโบฟ เดอะไลน์ รวมถึงช่องทางออนไลน์ พร้อมกันนี้ยังได้"ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" เข้ามาช่วยในการสร้างการเข้าถึงโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังต้องการสื่อสารแบรนด์ไปยังต่างจังหวัดเพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ควบคู่กับการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ 5 ซีรีส์ ซีรีส์ละ 4 รุ่น รวม 20 รุ่น เทียบกับปีก่อนที่เปิดตัว 2 รุ่น ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับล่างจนถึงบน ได้แก่ รุ่น IPC ที่เน้นจับตลาดบน, IDC จับกลุ่มระดับกลาง รุ่น ICC และ IC ที่นับว่าเป็นไฟติ้งแบรนด์ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1.49 หมื่นบาทสำหรับขนาด 9,000 บีทียู และสูงสุด 4.99 หมื่นบาทในขนาด 2.4 หมื่นบีทียู
โดยวางเป้าหมายสูงสุดในกลุ่มเครื่องปรับอากาศในปีนี้ด้วยการก้าวขึ้นสู่การเป็นเบอร์ 2 ของตลาดเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 25% และเป็นเบอร์ 3 ของตลาดรวมเครื่องปรับอากาศ ขณะที่ตลาดเครื่องปรับอากาศของไทยปีนี้ คาดว่าจะเติบโต 10% คิดเป็นมูลค่า 3.3 หมื่นล้านบาท หรือ 1.8 ล้านเครื่อง เทียบกับปีก่อนที่มีมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท หรือ 1.6 ล้านเครื่อง โดยขนาด 1.3-1.8 บีทียู เป็นกลุ่มสินค้าที่ขายดีเนื่องจากเป็นขนาดที่เหมาะกับที่พักอาศัย กอปรกับสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนจัด
อย่างไรก็ตามล่าสุดทางแอลจีได้ประกาศยกเลิกการทำตลาดเครื่องปรับอากาศรุ่นธรรมดาหรือนอนอินเวอร์เตอร์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปี 2559 ซึ่งเป็นตามนโยบายบริษัทแม่ในเกาหลี โดยประเทศแรกที่ยกเลิกการขายเริ่มจากในอเมริกาและยุโรป ซึ่งไทยถือเป็นประเทศแรกๆ ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา ที่จะหันมาทำตลาดเครื่องปรับอากาศในกลุ่มอินเวอร์เตอร์แทนเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาสนใจสินค้าในกลุ่มประหยัดพลังงานมากขึ้น
ขณะที่พานาโซนิค ที่ยังคงแนวคิดการทำตลาดด้วยคอนเซ็ปต์คุณภาพการผลิตมาตรฐานญี่ปุ่น (Japan Quality) โดยนายทาเคชิ โนะโมโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พานาโซนิค ในประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 10% ของรายได้ ทั้งการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ครบวงจรทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ จัดโปรโมชันหน้าร้อน รวมถึงการดึงตัวดาราที่กำลังเป็นที่นิยมของประชาชนในขณะนี้อย่าง "แต้ว -ณฐพร เตมีรักษ์" และ "นาย -ณภัทร เสียงสมบุญ" มาเป็นตัวแทนในการสื่อสารแบรนด์ ซึ่งถือว่าเป็นสองตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่กำลังเป็นที่ชื่นชอบและนิยมของประชาชน ดังนั้นการดึงตัวทั้งคู่มาใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์รวมถึงสร้างความสนใจในตัวแบรนด์นับว่าตรงจุดที่ทางเราต้องการนั้นคือการสื่อสารทางการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวแคมเปญ "Nature is the best technology" ด้วยเป้าหมายหลักคือการเข้ารุกตลาดเครื่องปรับอากาศพรีเมียม เพื่อรองรับตลาดเครื่องปรับอากาศของประเทศไทยในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้น
"สินค้าใหม่ที่พัฒนาออกมา จะมีรูปลักษณ์ดีไซน์ที่ออกมาก็สอดคล้องกับ 2 พรีเซนเตอร์คนรุ่นใหม่อย่างที่ทางแบรนด์ตัวมาเพื่อสร้างการรับรู้ในครั้งนี้อย่าง "แต้ว -ณฐพร เตมีรักษ์" และ "นาย- ณภัทร เสียงสมบุญ" ซึ่งมั่นใจว่าจากการเดินหน้ารุกตลาดอย่างเต็มตัวจะช่วยผลักดันส่วนแบ่งทางการตลาดเครื่องปรับอากาศของพานาโซนิคในปีนี้ให้เติบโตเป็น 20 % ตามเป้าหมาย (ปีงบประมาณ 2559) ขณะที่ในปีงบประมาณ 2560 พานาโซนิคตั้งเป้าหมายยอดขายเครื่องปรับอากาศโดยรวม 350,000 เครื่อง คิดเป็นอัตราการเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปี 2559 โดยแบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ 30 %"
ส่วนฟากเจ้าตลาดอย่าง "ซัมซุง" ก็ไม่น้อยหน้าเปิดตัวคุณแม่มือใหม่ "ชมพู่ - อารยา เอ. ฮาเก็ต" เป็นพรีเซนเตอร์ "ซัมซุง อินเวอร์เตอร์ วินด์ฟรี" ซึ่ง "วรรณา สวัสดิกูล" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด กล่าวว่า ซัมซุงมองหาคนที่มีไลฟ์สไตล์ การดำเนินชีวิต และความคิดที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ โดยคุณชมพู่ถือเป็นตัวแทนคนยุคใหม่ ฉลาดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตนเองและคนในครอบครัว ตอบโจทย์กับนวัตกรรมของซัมซุง อินเวอร์เตอร์ วินด์ฟรี" โดยเน้นสื่อสารแบรนด์ผ่านภาพยนตร์โฆษณา ‘เลิกเหวี่ยง เพราะมีเธอ’ ปูพรมสร้างการรับรู้จดจำ พร้อมชี้ให้ผู้บริโภคเห็นประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ บิลบอร์ด ออนไลน์ และหน้าร้าน
ไม่เพียงเท่านี้บรรดาผู้เล่นแบรนด์หลักในตลาดเครื่องปรับอากาศเมืองไทยต่างก็ทยอยใช้จุดเด่นของกลยุทธ์พรีเซนเตอร์มาร์เก็ตติ้งมาขยายฐานผู้ใช้ของแบรนด์อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นแบรนด์พรีเมียมอย่าง "ไดกิ้น" ที่เลือกใช้บริการพระเอกแม่เหล็กของวงการอย่าง "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ด้วยภาพลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นจากนามสกุล คูกิมิยะ และบทบาททางการแสดงที่มักได้รับบทเป็นคนญี่ปุ่นอยู่ในผลงานหลากหลายเรื่อง ส่งผลให้ "ณเดชน์" คือตัวแทนที่ตอบโจทย์ทางแบรนด์ในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ไดกิ้นให้กับกลุ่มคนต่างจังหวัดซึ่งยังไม่คุ้นเคยกับเครื่องปรับอากาศไดกิ้น และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างพรีเซนเตอร์คนใหม่ล่าสุดอย่าง "ณเดชน์ คูกิมิยะ"และเครื่องปรับอากาศไดกิ้นให้เป็นที่จดจำ
ขณะที่ "มิตซูบิชิ อีเล็คทริค" ที่ยังใช้นักแสดงหนุ่มหล่อ "โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูมิ" มาเป็นตัวแทนของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ที่ปีนี้มาพร้อมกับโปรดักต์ไฮไลต์ดีไซน์พิเศษฉลองครบรอบ 45 ปี กับเครื่องปรับอากาศ รุ่นใหม่ล่าสุด "มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม LN Series" ที่มีจุดเด่นคือเทคโนโลยี"3D Move-eye Human Sensor" เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ช่วยส่งลมเย็นได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยระบบ Variable Air Flow & Wide Air Flow ที่สามารถกระจายลมเย็นแยกทิศทางอิสระ จึงสามารถส่งลมเย็นได้ตรงจุด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,245 วันที่ 19 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2560
ช่วงเวลานี้ ไม่กล่าวถึงตลาดเครื่องปรับอากาศไม่ได้ เพราะเป็นธุรกิจที่แปรผันกับอุณหภูมิกล่าวคือ ยิ่งอากาศร้อนมาก ยอดขายยิ่งดี จากดีมานด์ที่เพิ่มสูงขึ้น แน่นอนว่าซัพพลายย่อมต้องปรับให้ทัน ตอบโจทย์ให้โดนใจ สิ่งสำคัญคือ การตลาดที่จะช่วยให้ถูกผู้บริโภคเลือกซื้อ และต้องไม่ใช่แค่โปรโมชัน หรือบริการหลังการขายที่แต่ละแบรนด์ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก วันนี้ "ตลาดแอร์" จึงแข่งขันกันที่อีโมชัน กลยุทธ์ "พรีเซนเตอร์ มาร์เก็ตติ้ง" จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ
เริ่มกันที่ "แอลจี"ที่ประกาศเดินเครื่องรุกตลาดด้วยการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนใหม่"ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" เข้ามาเจาะกลุ่มเป้าหมายให้ทั่วถึงโดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด ที่ปัจจุบันเริ่มมีการเติบโตของกลุ่มเครื่องปรับอากาศเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากอัตราการครอบครองยังน้อยกว่าพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะอัตราการครอบครองเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น หรือ 30% ในปี 2559 และในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 40-50% และคาดว่าในช่วง 2 ปีจากนี้ จะเพิ่มเป็น 70-80% และอาจจะเป็น 100% ได้ภายใน 5 ปีจากนี้
นายนิพนธ์ วงค์แสงอรุณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย)ฯ เปิดเผยว่า บริษัทได้วางงบการตลาดในปีนี้กว่า 300 ล้านบาทใช้จัดกิจรรมส่งเสริมการขายครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้าและตัวแทนจำหน่าย ในรูปแบบบีโลว์ เดอะไลน์ และอะโบฟ เดอะไลน์ รวมถึงช่องทางออนไลน์ พร้อมกันนี้ยังได้"ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" เข้ามาช่วยในการสร้างการเข้าถึงโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังต้องการสื่อสารแบรนด์ไปยังต่างจังหวัดเพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ควบคู่กับการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ 5 ซีรีส์ ซีรีส์ละ 4 รุ่น รวม 20 รุ่น เทียบกับปีก่อนที่เปิดตัว 2 รุ่น ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับล่างจนถึงบน ได้แก่ รุ่น IPC ที่เน้นจับตลาดบน, IDC จับกลุ่มระดับกลาง รุ่น ICC และ IC ที่นับว่าเป็นไฟติ้งแบรนด์ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1.49 หมื่นบาทสำหรับขนาด 9,000 บีทียู และสูงสุด 4.99 หมื่นบาทในขนาด 2.4 หมื่นบีทียู
โดยวางเป้าหมายสูงสุดในกลุ่มเครื่องปรับอากาศในปีนี้ด้วยการก้าวขึ้นสู่การเป็นเบอร์ 2 ของตลาดเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 25% และเป็นเบอร์ 3 ของตลาดรวมเครื่องปรับอากาศ ขณะที่ตลาดเครื่องปรับอากาศของไทยปีนี้ คาดว่าจะเติบโต 10% คิดเป็นมูลค่า 3.3 หมื่นล้านบาท หรือ 1.8 ล้านเครื่อง เทียบกับปีก่อนที่มีมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท หรือ 1.6 ล้านเครื่อง โดยขนาด 1.3-1.8 บีทียู เป็นกลุ่มสินค้าที่ขายดีเนื่องจากเป็นขนาดที่เหมาะกับที่พักอาศัย กอปรกับสภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนจัด
อย่างไรก็ตามล่าสุดทางแอลจีได้ประกาศยกเลิกการทำตลาดเครื่องปรับอากาศรุ่นธรรมดาหรือนอนอินเวอร์เตอร์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปี 2559 ซึ่งเป็นตามนโยบายบริษัทแม่ในเกาหลี โดยประเทศแรกที่ยกเลิกการขายเริ่มจากในอเมริกาและยุโรป ซึ่งไทยถือเป็นประเทศแรกๆ ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา ที่จะหันมาทำตลาดเครื่องปรับอากาศในกลุ่มอินเวอร์เตอร์แทนเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาสนใจสินค้าในกลุ่มประหยัดพลังงานมากขึ้น
ขณะที่พานาโซนิค ที่ยังคงแนวคิดการทำตลาดด้วยคอนเซ็ปต์คุณภาพการผลิตมาตรฐานญี่ปุ่น (Japan Quality) โดยนายทาเคชิ โนะโมโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พานาโซนิค ในประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 10% ของรายได้ ทั้งการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ครบวงจรทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ จัดโปรโมชันหน้าร้อน รวมถึงการดึงตัวดาราที่กำลังเป็นที่นิยมของประชาชนในขณะนี้อย่าง "แต้ว -ณฐพร เตมีรักษ์" และ "นาย -ณภัทร เสียงสมบุญ" มาเป็นตัวแทนในการสื่อสารแบรนด์ ซึ่งถือว่าเป็นสองตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่กำลังเป็นที่ชื่นชอบและนิยมของประชาชน ดังนั้นการดึงตัวทั้งคู่มาใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์รวมถึงสร้างความสนใจในตัวแบรนด์นับว่าตรงจุดที่ทางเราต้องการนั้นคือการสื่อสารทางการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวแคมเปญ "Nature is the best technology" ด้วยเป้าหมายหลักคือการเข้ารุกตลาดเครื่องปรับอากาศพรีเมียม เพื่อรองรับตลาดเครื่องปรับอากาศของประเทศไทยในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้น
"สินค้าใหม่ที่พัฒนาออกมา จะมีรูปลักษณ์ดีไซน์ที่ออกมาก็สอดคล้องกับ 2 พรีเซนเตอร์คนรุ่นใหม่อย่างที่ทางแบรนด์ตัวมาเพื่อสร้างการรับรู้ในครั้งนี้อย่าง "แต้ว -ณฐพร เตมีรักษ์" และ "นาย- ณภัทร เสียงสมบุญ" ซึ่งมั่นใจว่าจากการเดินหน้ารุกตลาดอย่างเต็มตัวจะช่วยผลักดันส่วนแบ่งทางการตลาดเครื่องปรับอากาศของพานาโซนิคในปีนี้ให้เติบโตเป็น 20 % ตามเป้าหมาย (ปีงบประมาณ 2559) ขณะที่ในปีงบประมาณ 2560 พานาโซนิคตั้งเป้าหมายยอดขายเครื่องปรับอากาศโดยรวม 350,000 เครื่อง คิดเป็นอัตราการเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปี 2559 โดยแบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ 30 %"
ส่วนฟากเจ้าตลาดอย่าง "ซัมซุง" ก็ไม่น้อยหน้าเปิดตัวคุณแม่มือใหม่ "ชมพู่ - อารยา เอ. ฮาเก็ต" เป็นพรีเซนเตอร์ "ซัมซุง อินเวอร์เตอร์ วินด์ฟรี" ซึ่ง "วรรณา สวัสดิกูล" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด กล่าวว่า ซัมซุงมองหาคนที่มีไลฟ์สไตล์ การดำเนินชีวิต และความคิดที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ โดยคุณชมพู่ถือเป็นตัวแทนคนยุคใหม่ ฉลาดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตนเองและคนในครอบครัว ตอบโจทย์กับนวัตกรรมของซัมซุง อินเวอร์เตอร์ วินด์ฟรี" โดยเน้นสื่อสารแบรนด์ผ่านภาพยนตร์โฆษณา ‘เลิกเหวี่ยง เพราะมีเธอ’ ปูพรมสร้างการรับรู้จดจำ พร้อมชี้ให้ผู้บริโภคเห็นประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ บิลบอร์ด ออนไลน์ และหน้าร้าน
ไม่เพียงเท่านี้บรรดาผู้เล่นแบรนด์หลักในตลาดเครื่องปรับอากาศเมืองไทยต่างก็ทยอยใช้จุดเด่นของกลยุทธ์พรีเซนเตอร์มาร์เก็ตติ้งมาขยายฐานผู้ใช้ของแบรนด์อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นแบรนด์พรีเมียมอย่าง "ไดกิ้น" ที่เลือกใช้บริการพระเอกแม่เหล็กของวงการอย่าง "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ด้วยภาพลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นจากนามสกุล คูกิมิยะ และบทบาททางการแสดงที่มักได้รับบทเป็นคนญี่ปุ่นอยู่ในผลงานหลากหลายเรื่อง ส่งผลให้ "ณเดชน์" คือตัวแทนที่ตอบโจทย์ทางแบรนด์ในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ไดกิ้นให้กับกลุ่มคนต่างจังหวัดซึ่งยังไม่คุ้นเคยกับเครื่องปรับอากาศไดกิ้น และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างพรีเซนเตอร์คนใหม่ล่าสุดอย่าง "ณเดชน์ คูกิมิยะ"และเครื่องปรับอากาศไดกิ้นให้เป็นที่จดจำ
ขณะที่ "มิตซูบิชิ อีเล็คทริค" ที่ยังใช้นักแสดงหนุ่มหล่อ "โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูมิ" มาเป็นตัวแทนของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ที่ปีนี้มาพร้อมกับโปรดักต์ไฮไลต์ดีไซน์พิเศษฉลองครบรอบ 45 ปี กับเครื่องปรับอากาศ รุ่นใหม่ล่าสุด "มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม LN Series" ที่มีจุดเด่นคือเทคโนโลยี"3D Move-eye Human Sensor" เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ช่วยส่งลมเย็นได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยระบบ Variable Air Flow & Wide Air Flow ที่สามารถกระจายลมเย็นแยกทิศทางอิสระ จึงสามารถส่งลมเย็นได้ตรงจุด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,245 วันที่ 19 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2560