Play
ชิคฯรุกดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง ปั้นแบรนด์ใหม่เจาะกลุ่มกลางขึ้นบน-3ปีสัดส่วนรายได้35%
ชิค รีพับบลิค เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจ สู่การตลาดยุคดิจิตอลพร้อมปั้นแบรนด์ “รีน่า เฮย์” เจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มกลาง-บน ดันเป็นหัวหอกหลักสร้างยอดขายตลาดต่างจังหวัด คาดภายใน 3 ปี สัดส่วนรายได้กลุ่มกลาง-บนพุ่ง 35% ตั้งเป้าปี 60 กวาดยอดขาย 900 ล้านบาท
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทมีแผนปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ โดยมุ่งเน้นขยายกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน จากปัจจุบันกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในระดับบน เนื่องจากมองว่าตลาดในกลุ่มนี้มีฐานขนาดใหญ่ และยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก บริษัทจึงเปิดตัวแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ “ริน่า เฮย์” (RINA HEY)ระดับราคาถูกกว่าแบรนด์ “ชิครีพับบลิค” (CHIC REPUBLC)ประมาณ 30%
“กลุ่มลูกค้าของแบรนด์ชิค รีพับบลิค จะมีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปแต่ตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่เริ่มจะมีครอบครัวหรือเริ่มมองหาที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง แต่อาจจะยังไม่มีกำลังซื้อที่สูงมาก บริษัทจึงแตกแบรนด์ใหม่เพื่อรองรับความต้องการของคนกลุ่มนี้”นายกิจจา กล่าว
ลูกค้าในกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้าถึงสื่อออนไลน์ได้ง่าย บริษัทจึงหันมาปรับปรุงกลยุทธ์การทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ให้มากขึ้น ในรูปแบบการตลาดแบบดิจิตอล (Digital Marketing) และการทำการตลาดแบบออนไลน์ (Online Marketing) โดยปัจจุบันได้เริ่มมีการพัฒนาสื่อผ่านโซเชียล มีเดียมากขึ้น อาทิเฟซบุ๊กอินสตาแกรม และไลน์ เป็นต้น ซึ่งในเดือนกรกฎาคม 2560บริษัทมีแผนจะพัฒนาเว็บไซต์ และอี-คอมเมิร์ซ เพื่อเป็นช่องทางให้คนรู้จักแบรนด์ ริน่า เฮย์ มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีความตั้งใจผลักดันแบรนด์ ริน่า เฮย์ ให้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งแผนการตลาดและแผนการลงทุนที่แยกจากแบรนด์ ชิค รีพับบลิค เพื่อมุ่งสร้างแบรนด์ให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว โดยไม่เกินไตรมาส 2 ปี 2560 บริษัทจะปรับเพิ่มพื้นที่ขายสินค้าแบรนด์ ริน่า เฮย์ ให้ครบทุกสาขาที่มีอยู่อีก 3 แห่ง ได้แก่ สาขาประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา), สาขาบางนา (บางนา-ตราด กม. 4) และสาขาพัทยา (เยื้องบิ๊กซีพัทยาใต้)
ในอนาคตเตรียมแผนพัฒนาเพื่อเปิด Stand Alone Store เฉพาะแบรนด์ ริน่า เฮย์ เพิ่มขึ้นอีกในอีกหลายทำเล โดยมุ่งสู่พื้นที่หัวเมืองใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูงเป็นหลัก เช่น จังหวัดในภาคอิสานทั้งนี้ คาดว่าในช่วง 3 ปี (2560-2562) บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตด้านยอดขายจากแบรนด์ริน่า เฮย์ 35% และแบรนด์ชิค รีพับบลิค 65%
ขณะที่แบรนด์ ชิค รีพับบลิค จะเดินหน้าแผนการตลาดแบบดิจิตอล ออนไลน์ ปัจจุบันได้เพิ่มช่องทางติดต่อกับกลุ่มลูกค้าทางสื่อเฟชบุ๊ก และโซเซียล มีเดียอื่นๆ เพื่อกระชับการสื่อสารระหว่างลูกค้ากับบริษัทมากขึ้น และเดินหน้าพัฒนาสู่การทำสู่อี-คอมเมิร์ซในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งในระยะแรกยังไม่ได้คาดหวังยอดขายจากการทำอี-คอมเมิร์ซ แต่มุ่งหวังให้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงรายละเอียดสินค้า แหล่งที่มาและเรื่องราวของสินค้าแต่ละประเภทของ ชิค รีพับบลิคมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทเตรียมจะขยายสาขาเพิ่มในพื้นที่ทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ อีก 1 สาขา และตั้งเป้าจะขยายสาขาในต่างประเทศให้ได้ตามแผนที่เคยกำหนดไว้ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนต่อสาขาประมาณ 300 -400 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายการเติบโตในปี 2560 บริษัทตั้งเป้าเติบโตด้านยอดขายที่ประมาณ 5-10 % หรือประมาณ 900 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 2559 ที่มียอดขาย 860 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,242 วันที่ 9 - 11 มีนาคม พ.ศ. 2560
นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทมีแผนปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ โดยมุ่งเน้นขยายกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน จากปัจจุบันกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในระดับบน เนื่องจากมองว่าตลาดในกลุ่มนี้มีฐานขนาดใหญ่ และยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก บริษัทจึงเปิดตัวแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ “ริน่า เฮย์” (RINA HEY)ระดับราคาถูกกว่าแบรนด์ “ชิครีพับบลิค” (CHIC REPUBLC)ประมาณ 30%
“กลุ่มลูกค้าของแบรนด์ชิค รีพับบลิค จะมีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปแต่ตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่เริ่มจะมีครอบครัวหรือเริ่มมองหาที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง แต่อาจจะยังไม่มีกำลังซื้อที่สูงมาก บริษัทจึงแตกแบรนด์ใหม่เพื่อรองรับความต้องการของคนกลุ่มนี้”นายกิจจา กล่าว
ลูกค้าในกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้าถึงสื่อออนไลน์ได้ง่าย บริษัทจึงหันมาปรับปรุงกลยุทธ์การทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ให้มากขึ้น ในรูปแบบการตลาดแบบดิจิตอล (Digital Marketing) และการทำการตลาดแบบออนไลน์ (Online Marketing) โดยปัจจุบันได้เริ่มมีการพัฒนาสื่อผ่านโซเชียล มีเดียมากขึ้น อาทิเฟซบุ๊กอินสตาแกรม และไลน์ เป็นต้น ซึ่งในเดือนกรกฎาคม 2560บริษัทมีแผนจะพัฒนาเว็บไซต์ และอี-คอมเมิร์ซ เพื่อเป็นช่องทางให้คนรู้จักแบรนด์ ริน่า เฮย์ มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีความตั้งใจผลักดันแบรนด์ ริน่า เฮย์ ให้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งแผนการตลาดและแผนการลงทุนที่แยกจากแบรนด์ ชิค รีพับบลิค เพื่อมุ่งสร้างแบรนด์ให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว โดยไม่เกินไตรมาส 2 ปี 2560 บริษัทจะปรับเพิ่มพื้นที่ขายสินค้าแบรนด์ ริน่า เฮย์ ให้ครบทุกสาขาที่มีอยู่อีก 3 แห่ง ได้แก่ สาขาประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา), สาขาบางนา (บางนา-ตราด กม. 4) และสาขาพัทยา (เยื้องบิ๊กซีพัทยาใต้)
ในอนาคตเตรียมแผนพัฒนาเพื่อเปิด Stand Alone Store เฉพาะแบรนด์ ริน่า เฮย์ เพิ่มขึ้นอีกในอีกหลายทำเล โดยมุ่งสู่พื้นที่หัวเมืองใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูงเป็นหลัก เช่น จังหวัดในภาคอิสานทั้งนี้ คาดว่าในช่วง 3 ปี (2560-2562) บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตด้านยอดขายจากแบรนด์ริน่า เฮย์ 35% และแบรนด์ชิค รีพับบลิค 65%
ขณะที่แบรนด์ ชิค รีพับบลิค จะเดินหน้าแผนการตลาดแบบดิจิตอล ออนไลน์ ปัจจุบันได้เพิ่มช่องทางติดต่อกับกลุ่มลูกค้าทางสื่อเฟชบุ๊ก และโซเซียล มีเดียอื่นๆ เพื่อกระชับการสื่อสารระหว่างลูกค้ากับบริษัทมากขึ้น และเดินหน้าพัฒนาสู่การทำสู่อี-คอมเมิร์ซในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งในระยะแรกยังไม่ได้คาดหวังยอดขายจากการทำอี-คอมเมิร์ซ แต่มุ่งหวังให้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงรายละเอียดสินค้า แหล่งที่มาและเรื่องราวของสินค้าแต่ละประเภทของ ชิค รีพับบลิคมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทเตรียมจะขยายสาขาเพิ่มในพื้นที่ทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ อีก 1 สาขา และตั้งเป้าจะขยายสาขาในต่างประเทศให้ได้ตามแผนที่เคยกำหนดไว้ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนต่อสาขาประมาณ 300 -400 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายการเติบโตในปี 2560 บริษัทตั้งเป้าเติบโตด้านยอดขายที่ประมาณ 5-10 % หรือประมาณ 900 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 2559 ที่มียอดขาย 860 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,242 วันที่ 9 - 11 มีนาคม พ.ศ. 2560