Play
‘ไอสปอร์ต’ตั้งเป้าโต700ล้าน เสริมทัพ5ธุรกิจใหม่-รุกหนักคอนเทนต์กีฬา
ขับเคลื่อน “ไอสปอร์ต” เสริมทัพ 5 ธุรกิจตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ตํ่า 700 ล้านบาท ล่าสุดเซ็นสัญญาถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกเป็นเวลา 3 ปี เดินหน้าเตรียมแผนระดมทุนเข้าตลาดใหม่ภายในไตรมาส 3 ปีนี้
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไอสปอร์ต จำกัด เปิดเผยว่า “isport เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจสามารถ ไอ-โมบาย ที่จับมือกับ Sport Content Provider คือ บริษัท สยามสปอร์ตซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2004 เพื่อดำเนินธุรกิจด้านคอนเทนต์กีฬา มาในปีนี้ isport ประกาศเปิดแนวรุกธุรกิจด้านกีฬาเต็มตัว มุ่งสู่การเป็น“บริษัทที่ทำธุรกิจด้านกีฬาครบวงจร”ในยุค Digital 4.0 ผนวกกับ isport มีพื้นฐานและประสบการณ์ด้านคอนเทนต์กีฬา และการผลิตรายการกีฬาให้กับโทรทัศน์ช่องต่างๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมกีฬาที่สร้างความฮือฮา อาทิ การนำทีมฟุตบอลระดับโลกมาแข่งขันในประเทศไทยเป็นแมตช์แห่งประวัติศาสตร์มากมาย อาทิ ทีมเชลซี, ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด , ทีมอาร์เซน่อล และทีมลีดส์ ยูไนเต็ด เป็นต้น
อย่างไรก็ตามบริษัทฯเสริมทัพด้วยธุรกิจใหม่ ได้แก่ 1. Sport Tour จัดทัวร์ชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติญี่ปุ่น 2. Sport Event เป็นผู้จัดกิจกรรมด้านกีฬาและบันเทิงระดับโลก เช่น การนำทีมสโมสรกีฬาชั้นนำของโลกมาให้คนไทยได้ชม, การจัดคอนเสิร์ตศิลปินระดับโลกที่จะนำกีฬาเข้ามาสอดแทรกในคอนเสิร์ต 3. Sport Commerce จัดทำเว็บไซต์www.isportmart.com ศูนย์รวมของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับกีฬาและไลฟ์สไตล์ของคนรักกีฬา ,4. Game ตั้งเป้าปีนี้จะเปิดตัวเกมบนมือถือประมาณ 3-4 เกม ทั้งเกมด้านกีฬาและอื่นๆ สุดท้าย 5. Talent Management โดยบริษัทจะเป็นบริษัทแรกในประเทศไทย
นอกจากนี้แล้วทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นในช่วง 3-5 ปีมาโดยตลอด isportตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ที่ 700 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2559 โดยรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจทีวี และ บอรดคลาสติ้งซึ่งปัจจุบันไอสปอร์ต ได้เซ็นสัญญาการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560-2563 รวมถึงมีแผนที่จะนำ isport เข้าสู่ตลาด MAI ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
“เรามั่นใจว่าด้วยศักยภาพของ isport ประกอบกับทิศทางการเติบโตของวงการกีฬา และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่สนใจด้านกีฬาและการดูแลสุขภาพ จะผลักดันให้ isport ก้าวเป็นผู้นำในธุรกิจ Sport & Entertainment ของไทย ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความมั่นคงให้แก่อาชีพนักกีฬา บริษัทยังได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในหลายแขนง เช่นบริษัทประกันชีวิตอันดับต้นๆของเมืองไทยที่จะช่วยบริหารรายได้และเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน รวมถึงมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการดูแลศิลปินจากค่ายเพลงอันดับหนึ่งของประเทศด้วย”วัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับ บริษัท ไอสปอร์ตจำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2004 (รวมระยะเวลา 13 ปี) เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท สามารถมัลติมีเดีย จำกัด (บริษัทในกลุ่มสามารถ ไอ-โมบาย) ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการข้อมูลสาระความบันเทิงที่ทันสมัยและสดใหม่ในรูป Interactive Multimedia และ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคทผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์กีฬาอันดับหนึ่ง โดยกลุ่มสามารถถือหุ้น 50% บมจ.สยามสปอร์ตซินดิเคท 37.5% และอื่นๆ 12.5%
ปัจจุบัน บริษัท ไอสปอร์ตจำกัด ดำเนินธุรกิจ “ด้านกีฬาครบวงจร” ในเรื่องของความบันเทิงทางด้านกีฬา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่สนใจและรักกีฬา, การจัดหาจัดการลิขสิทธิ์ต่างๆ รวมถึงข้อมูลและข่าวสารทางด้านกีฬาและธุรกิจกีฬา โดยแบ่งเป็น 7 ธุรกิจหลักได้แก่ Digital service ,TV and Broadcasting, Sport Tour, Sport Event, Sport Commerce, Game และ Talent Management
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,241 วันที่ 5 - 8 มีนาคม พ.ศ. 2560
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไอสปอร์ต จำกัด เปิดเผยว่า “isport เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจสามารถ ไอ-โมบาย ที่จับมือกับ Sport Content Provider คือ บริษัท สยามสปอร์ตซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2004 เพื่อดำเนินธุรกิจด้านคอนเทนต์กีฬา มาในปีนี้ isport ประกาศเปิดแนวรุกธุรกิจด้านกีฬาเต็มตัว มุ่งสู่การเป็น“บริษัทที่ทำธุรกิจด้านกีฬาครบวงจร”ในยุค Digital 4.0 ผนวกกับ isport มีพื้นฐานและประสบการณ์ด้านคอนเทนต์กีฬา และการผลิตรายการกีฬาให้กับโทรทัศน์ช่องต่างๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมกีฬาที่สร้างความฮือฮา อาทิ การนำทีมฟุตบอลระดับโลกมาแข่งขันในประเทศไทยเป็นแมตช์แห่งประวัติศาสตร์มากมาย อาทิ ทีมเชลซี, ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด , ทีมอาร์เซน่อล และทีมลีดส์ ยูไนเต็ด เป็นต้น
อย่างไรก็ตามบริษัทฯเสริมทัพด้วยธุรกิจใหม่ ได้แก่ 1. Sport Tour จัดทัวร์ชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติญี่ปุ่น 2. Sport Event เป็นผู้จัดกิจกรรมด้านกีฬาและบันเทิงระดับโลก เช่น การนำทีมสโมสรกีฬาชั้นนำของโลกมาให้คนไทยได้ชม, การจัดคอนเสิร์ตศิลปินระดับโลกที่จะนำกีฬาเข้ามาสอดแทรกในคอนเสิร์ต 3. Sport Commerce จัดทำเว็บไซต์www.isportmart.com ศูนย์รวมของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับกีฬาและไลฟ์สไตล์ของคนรักกีฬา ,4. Game ตั้งเป้าปีนี้จะเปิดตัวเกมบนมือถือประมาณ 3-4 เกม ทั้งเกมด้านกีฬาและอื่นๆ สุดท้าย 5. Talent Management โดยบริษัทจะเป็นบริษัทแรกในประเทศไทย
นอกจากนี้แล้วทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นในช่วง 3-5 ปีมาโดยตลอด isportตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ที่ 700 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2559 โดยรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจทีวี และ บอรดคลาสติ้งซึ่งปัจจุบันไอสปอร์ต ได้เซ็นสัญญาการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560-2563 รวมถึงมีแผนที่จะนำ isport เข้าสู่ตลาด MAI ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
“เรามั่นใจว่าด้วยศักยภาพของ isport ประกอบกับทิศทางการเติบโตของวงการกีฬา และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่สนใจด้านกีฬาและการดูแลสุขภาพ จะผลักดันให้ isport ก้าวเป็นผู้นำในธุรกิจ Sport & Entertainment ของไทย ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความมั่นคงให้แก่อาชีพนักกีฬา บริษัทยังได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในหลายแขนง เช่นบริษัทประกันชีวิตอันดับต้นๆของเมืองไทยที่จะช่วยบริหารรายได้และเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน รวมถึงมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการดูแลศิลปินจากค่ายเพลงอันดับหนึ่งของประเทศด้วย”วัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับ บริษัท ไอสปอร์ตจำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2004 (รวมระยะเวลา 13 ปี) เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท สามารถมัลติมีเดีย จำกัด (บริษัทในกลุ่มสามารถ ไอ-โมบาย) ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการข้อมูลสาระความบันเทิงที่ทันสมัยและสดใหม่ในรูป Interactive Multimedia และ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคทผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์กีฬาอันดับหนึ่ง โดยกลุ่มสามารถถือหุ้น 50% บมจ.สยามสปอร์ตซินดิเคท 37.5% และอื่นๆ 12.5%
ปัจจุบัน บริษัท ไอสปอร์ตจำกัด ดำเนินธุรกิจ “ด้านกีฬาครบวงจร” ในเรื่องของความบันเทิงทางด้านกีฬา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่สนใจและรักกีฬา, การจัดหาจัดการลิขสิทธิ์ต่างๆ รวมถึงข้อมูลและข่าวสารทางด้านกีฬาและธุรกิจกีฬา โดยแบ่งเป็น 7 ธุรกิจหลักได้แก่ Digital service ,TV and Broadcasting, Sport Tour, Sport Event, Sport Commerce, Game และ Talent Management
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,241 วันที่ 5 - 8 มีนาคม พ.ศ. 2560