โดย : เอราวัณ
ขุดมติลับ "ประเคน" ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
"ไม่มีความลับในโลก อยู่ที่ความจริงซึ่งปกปิดไว้จะถูกเปิดเผยเมื่อใดเท่านั้น" ในโลกยุคดิจิตอล ความลับมักถูกเปิดเผยเร็ววัน เรื่องที่พยายามปกปิดของรัฐบาลนี้คือ การให้ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (N.C.C.) บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ด้วยการต่อสัญญาออกไปถึง 50 ปี เป็นมติคณะรัฐมนตรีแปลกประหลาด
– ที่ว่าแปลกประหลาดเพราะไม่มีการแถลงมติคณะรัฐมนตรี ทั้งๆที่มีมติไปเมื่อ 17 ม.ค. 2560 เหมือนจงใจปกปิดเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอธิบายยากยิ่ง เพราะนี่เป็นครั้งแรกในการต่อสัญญาให้เอกชนด้วยระยะเวลาในสัญญามากกว่าสัญญาเดิมถึงสองเท่า (เดิม N.C.C.ได้สัญญา 25 ปี แต่คราวนี้คณะรัฐมนตรีต่อสัญญาให้ยาวถึง 50 ปี) โดยปกติสัญญาสัมปทานหรือสัญญาเช่าของภาครัฐจะให้ไม่เกิน 30 ปี กรณีนี้จึงถือเป็นกรณีพิเศษ
– จนทำให้ต้องสืบย้อนไปว่า N.C.C. เป็นของใคร? พบว่าเป็นของกลุ่มเจ้าสัว"เจริญ ศิริวัฒนภักดี "บอสใหญ่แห่งค่าย "เบียร์ช้าง" นั่นเอง แรกเริ่มเดิมที N.C.C. เป็นของกลุ่มบ้านฉาง กรุ๊ป ของ" ไพโรจน์ เปี่ยมพงศ์สานต์ "ต่อมากลุ่ม SC Asset ของ"ทักษิณ ชินวัตร" เข้ามาเทกโอเวอร์ และจบลงด้วยการขายให้กลุ่ม "สิริวัฒนภักดี" ตั้งแต่ปี 2545เ ป็นต้นมา
– เดิมในสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์นั้น N.C.C. นอกจากจะสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติแล้ว ในสัญญาระบุจะต้องสร้างโรงแรม 4-5 ดาว ขนาด 400 ห้องด้วย แต่ผู้บริหารทั้ง 3 ยุคของ N.C.C. ไม่ลงทุนสร้างโรงแรม เพราะคิดว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าในพื้นที่เช่า จึงมีการล็อบบี้ผู้บริหารกทม.ในบางยุคให้ปรับผังเมือง ห้ามสร้างตึกสูงเกิน 23 เมตร อันเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่ต้องก่อสร้างโรงแรม
– หันไปดูบริเวณโดยรอบอาคารสำนักงาน-โรงแรม-คอนโดมิเนียม กลับสร้างสูงระฟ้าได้อย่างสบาย
– เจาะลึกไปอีกพบว่าในสัญญาใหม่50 ปี N.C.C. ต้องลงทุนใหม่ 6,000 ล้านบาท แต่มูลค่าในอนาคต50ปี คำนวณได้กว่า 1.8 หมื่นล้านบาท (3 เท่าตัว) บุ๊กกำไรกันเห็นๆ
– อย่างนี้ไม่เรียกว่า "ประเคน" แล้วจะให้เรียกอะไร? ที่ต้องจับตาคือข่าวที่เมาธ์กันทั่วแผ่นดินว่า "บางกลุ่ม" ขอจองโครงการรถไฟความเร็วสูงสายใต้ (กรุงเทพฯ-หัวหิน) ข่าวนี้จริง-เท็จ แค่ไหนต้องรอผลการคัดเลือกผู้ได้รับสัมปทานที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงให้เป็นมรรคเป็นผลอยู่ ความคุ้มค่าในการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงไม่ได้อยู่ที่ค่าโดยสาร หากแต่อยู่ที่มูลค่าที่ดินแถว "เพชรบุรี" ที่มีอยู่นับหมื่นไร่จะงอกเงยขึ้นมาหลายร้อยหลายพันเท่า
– ต้องสะกิดดังๆ ด้วยความหวังดีต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า 2 เรื่องข้างต้นนี้รัฐบาลอาจเห็นเป็นเรื่องเล็ก แต่คนในสังคมเริ่มเห็นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเกรงว่าจะเป็นเรื่อง "ผลประโยชน์ต่างตอบแทน" เรื่องเหล่านี้จำเป็นที่รัฐบาลต้องบริหาความรู้สึกของคนในสังคมให้ดี
คอลัมน์ : ที่นี่ ไม่มีความลับ / หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 16 ฉบับที่ 3235 ระหว่าง 12-15 ก.พ. 2560