อิมพอร์ตเครื่องใช้ไฟฟ้าพุ่ง คาดปีนี้เกิน 2.3 แสนล. ด้านส่งออกลุ้นพลิกแซงเวียดนาม
ไทยนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าพุ่งกว่า 2.3 แสนล้านผลพวงค่ายทีวีเกาหลีย้ายฐานไปผลิตเพื่อนบ้าน ต้องหันอิมพอร์ตแทน สภาอุตฯคาดปีนี้ยังโตได้ 2-3% ขณะส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2.2 ล้านล้านต่อปี คาดพลิกกลับแซงคืนเวียดนาม
จากการตรวจสอบข้อมูลการนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของไทยในปี 2559 ที่ผ่านมา พบมีมูลค่ามากกว่า 2.38 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.7% ทั้งนี้พบมีการนำเข้า 5 อันดับจากจีน เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีอัตราการขยายตัว 1.8, 17.7, -31.7,-10.46 และ 35.83% ตามลำดับ
นายวิษณุ ลิ่มวิบูลย์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า การนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยที่ขยายตัวสูงขึ้นดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากโรงงานผลิตวิทยุโทรทัศน์จากเกาหลีใต้ ได้แก่ ค่ายซัมซุง และแอลจีซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดในไทยค่อนข้างสูง ได้ย้ายฐานการผลิตจากไทยไปผลิตในเวียดนามก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ไทยต้องมีการนำเข้าโทรทัศน์ของสองแบรนด์ดังกล่าวจากเวียดนามแทน
ขณะที่การนำเข้าจากจีนส่วนใหญ่เป็นโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า รวมถึงชิ้นส่วนเพื่อผลิตโทรทัศน์ และแผงโซลาเซลล์ที่หลายค่ายของจีนได้มาใช้ไทยเป็นฐานผลิตและส่งออก จากที่ก่อนหน้าสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของจีน รวมถึงอีกหลายสินค้าได้ถูกทางสหรัฐอเมริกา และยุโรปเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด(เอดี) ส่วนการนำเข้าจากมาเลเซียส่วนใหญ่เป็นเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำร้อน เครื่องซักผ้า เป็นต้น
"สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต่างชาติยังผลิตในไทยได้แก่ เครื่องปรับอากาศเช่นของไดกิ้นมิตซูบิชิ ซัมซุง แอลจี รวมถึงเครื่องซักผ้า ตู้เย็นที่สินค้าเหล่านี้ไทยมีชิ้นส่วนป้อน แต่อีกด้านหนึ่งไทยก็เป็นผู้นำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากหลายค่ายที่ไปผลิตในหลายประเทศที่มีต้นทุนที่ถูกกว่า ภาพรวมปีนี้การนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยน่าจะขยายตัวต่อเนื่องอย่างต่ำ 2-3% เพราะเวลานี้สินค้านำเข้าราคาถูกลง เช่นทีวีก่อนหน้านี้ราคา 4-5 หมื่นบาทต่อเครื่อง แต่ปัจจุบันระดับราคาแค่หมื่นกว่าบาท"
ขณะที่ด้านการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยในปี 2560 คาดจะขยายตัวเป็นบวก จากในปีที่ผ่านมาติดลบประมาณ 3% จากยอดที่เคยส่งออกราว 2.2 ล้านล้านบาทต่อปี ทั้งนี้มีปัจจัยสนับสนุน เช่น หากสหรัฐฯเพิ่มภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีนซึ่งเป็นคู่แข่งสินค้าไทยรายสำคัญในสหรัฐฯตามที่นายโดนังด์ทรัมป์ได้ประกาศไว้ รวมถึงผลจากสหรัฐฯถอนตัวจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(ทีพีพี) จะลดแรงจูงใจต่างชาติในการลงทุนใหม่ในเวียดนามที่เป็นสมาชิกทีพีพี
ทั้งนี้จากในปีที่ผ่านมายอดส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าของเวียดนามได้แซงหน้าทั้งมาเลเซียและไทยไป โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่ายซัมซุงและแอลจีได้ย้ายฐานผลิตโทรทัศน์จากไทยไปเวียดนามและไปเพิ่มตัวเลขส่งออกให้เวียดนาม ขณะที่ในอาเซียนสิงคโปร์ยังครองอันดับ 1 ของการส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ของอาเซียน
"ในปีนี้คาดยอดการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยจะสามารถแซงเวียดนามกลับมาได้ มีปัจจัยจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและแผงโซลาร์เซลล์จากจีนหลายรายเข้ามาลงทุนในไทยและจะช่วยเพิ่มตัวเลขส่งออก"
อนึ่ง สินค้าส่งออกในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญของไทยได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, แผงวงจรไฟฟ้า,เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ, เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ, เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ และเครื่องโทรสาร เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,234 วันที่ 9 - 11 กุมภาพันธ์ 2560