Kaidee เผยสถิติปี 59 มีของที่ขายได้กว่า 2 ล้านชิ้นมูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านบาท
วันที่ 7 ก.พ.60 : Kaidee (ขายดี) เผยผลการดำเนินงานในปี 2559 มีของขายได้ที่ Kaidee ในปี 2559 มากกว่า 2,000,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ถึง 54% พร้อมคาดการณ์การเติบโตของตลาดซื้อ-ขายของมือสองปีนี้เป็นเท่าตัว เพราะคนไทยตื่นตัวเห็นคุณค่าของการส่งต่อของไม่ได้ใช้มากขึ้นเป็นประวัติการณ์
นายทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/เฮดโค้ช แห่ง Kaidee แหล่งซื้อ-ขายของมือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2559 ที่ผ่านมาว่า Kaidee เติบโตมากขึ้นในปีที่ผ่าน คนไทยหันมาให้ความสนใจตลาดซื้อ-ขายของมือสองมากขึ้น มีของขายได้กว่า 2,000,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาท โดยที่ 40% ของสินค้าที่ลงขายนี้ขายได้ภายใน 3 วัน เฉลี่ยแล้วในทุกๆ 17 วินาทีมีของขายได้ที่ Kaidee 1 ชิ้น และ 5 หมวดที่ตลาดคึกคักมากที่สุด คือ รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าผู้หญิง มอเตอร์ไซค์ และพระเหรียญ ตามลำดับ
[caption id="attachment_129017" align="aligncenter" width="335"]
นายทิวา ยอร์ค[/caption]
“ตลาดที่คึกคักที่สุดใน Kaidee นั้น คือ ตลาดซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง โดยเฉลี่ยแต่ละเดือนนั้นมีรถมือสองขายได้ที่ Kaidee กว่า 14,000 คัน มูลค่าเดือนละกว่า 4,000 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยของรถยนต์ที่ขายได้นั้นอยู่ที่คันละ 260,000 บาท และเฉลี่ยทุกๆ 3 นาทีมีรถมือสองขายได้ที่นี่ 1 คัน” นายทิวา เผยถึงสถิติตลาดซื้อ-ขายรถมือสองของ Kaidee ในปีที่ผ่านมา
ส่วนสถิติในปี 2559 อื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่ 5 จังหวัดที่มีผู้ใช้งานสูงสุด ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 2.ชลบุรี 3.เชียงใหม่ 4.นครราชสีมา และ5.ระยอง
ราคาเฉลี่ย 5 หมวดที่ขายดีที่สุด ได้แก่ 1.โทรศัพท์มือถือ 6,000 บาท 2.รถยนต์ 260,000 บาท 3. มอเตอร์ไซค์ 26,000 บาท 4.อะไหล่รถ ประดับยนต์ 5,000 บาท และ5.เสื้อผ้าผู้หญิง 300 บาท
นายทิวา กล่าวต่อไป ในปี 2560 นี้ จะเป็นปีแห่งการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Kaidee ทั้งนี้ก็เพราะจากสถิติใน 2-3 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า คนไทยตื่นตัวมากขึ้นในการซื้อ-ขายของมือสอง เพราะในแต่ละวันมีประกาศเข้ามาใหม่เฉลี่ยกว่า 40,000 ประกาศ มีผู้ใช้งานสูงสุดต่อวันถึงกว่า 780,000 คน
“ในปีนี้ ทีม Kaidee ก็ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนา Kaidee ให้เป็นตลาดรวมสินค้าของคนไทยที่ไม่ว่าต้องการจะซื้อ-ขายอะไร ไม่ว่าจะเป็นหมวดหมู่ไหน ก็สามารถมาได้ที่นี่ อีกทั้งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงหน้าตาในแอปพลิเคชันของเราตลอดทั้งปีนี้ และฟังก์ชั่นต่างๆ ก็จะใช้งานสะดวกขึ้น ตอบโจทย์การซื้อ-ขายของมือสองของคนไทยครบถ้วนภายในแอปฯ เดียว”นายทิวา กล่าวปิดท้าย
นายทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/เฮดโค้ช แห่ง Kaidee แหล่งซื้อ-ขายของมือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2559 ที่ผ่านมาว่า Kaidee เติบโตมากขึ้นในปีที่ผ่าน คนไทยหันมาให้ความสนใจตลาดซื้อ-ขายของมือสองมากขึ้น มีของขายได้กว่า 2,000,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาท โดยที่ 40% ของสินค้าที่ลงขายนี้ขายได้ภายใน 3 วัน เฉลี่ยแล้วในทุกๆ 17 วินาทีมีของขายได้ที่ Kaidee 1 ชิ้น และ 5 หมวดที่ตลาดคึกคักมากที่สุด คือ รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าผู้หญิง มอเตอร์ไซค์ และพระเหรียญ ตามลำดับ
[caption id="attachment_129017" align="aligncenter" width="335"]
“ตลาดที่คึกคักที่สุดใน Kaidee นั้น คือ ตลาดซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง โดยเฉลี่ยแต่ละเดือนนั้นมีรถมือสองขายได้ที่ Kaidee กว่า 14,000 คัน มูลค่าเดือนละกว่า 4,000 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยของรถยนต์ที่ขายได้นั้นอยู่ที่คันละ 260,000 บาท และเฉลี่ยทุกๆ 3 นาทีมีรถมือสองขายได้ที่นี่ 1 คัน” นายทิวา เผยถึงสถิติตลาดซื้อ-ขายรถมือสองของ Kaidee ในปีที่ผ่านมา
ส่วนสถิติในปี 2559 อื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่ 5 จังหวัดที่มีผู้ใช้งานสูงสุด ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 2.ชลบุรี 3.เชียงใหม่ 4.นครราชสีมา และ5.ระยอง
ราคาเฉลี่ย 5 หมวดที่ขายดีที่สุด ได้แก่ 1.โทรศัพท์มือถือ 6,000 บาท 2.รถยนต์ 260,000 บาท 3. มอเตอร์ไซค์ 26,000 บาท 4.อะไหล่รถ ประดับยนต์ 5,000 บาท และ5.เสื้อผ้าผู้หญิง 300 บาท
นายทิวา กล่าวต่อไป ในปี 2560 นี้ จะเป็นปีแห่งการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Kaidee ทั้งนี้ก็เพราะจากสถิติใน 2-3 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า คนไทยตื่นตัวมากขึ้นในการซื้อ-ขายของมือสอง เพราะในแต่ละวันมีประกาศเข้ามาใหม่เฉลี่ยกว่า 40,000 ประกาศ มีผู้ใช้งานสูงสุดต่อวันถึงกว่า 780,000 คน
“ในปีนี้ ทีม Kaidee ก็ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนา Kaidee ให้เป็นตลาดรวมสินค้าของคนไทยที่ไม่ว่าต้องการจะซื้อ-ขายอะไร ไม่ว่าจะเป็นหมวดหมู่ไหน ก็สามารถมาได้ที่นี่ อีกทั้งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงหน้าตาในแอปพลิเคชันของเราตลอดทั้งปีนี้ และฟังก์ชั่นต่างๆ ก็จะใช้งานสะดวกขึ้น ตอบโจทย์การซื้อ-ขายของมือสองของคนไทยครบถ้วนภายในแอปฯ เดียว”นายทิวา กล่าวปิดท้าย