KEY
POINTS
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ประเมินแนวโน้มราคาทองคำราคาทองคำในสัปดาห์นี้ (18 - 23 พ.ย. 68) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนอย่างต่อเนื่อง
โดยได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนปรับลดความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายแสดงความลังเลต่อการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้
ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม หลังทำเนียบขาวระบุว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ทำให้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อและการจ้างงานประจำเดือนตุลาคม ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของเฟด
เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้แสดงความลังเลที่จะสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานค่อนข้างมีเสถียรภาพหลังจากที่เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งท่าทีดังกล่าวของเจ้าหน้าที่เฟดทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธ.ค.
ประกอบกับการยุติสถานการณ์ชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ จะทำให้สหรัฐฯ เผชิญกับปัญหาหนี้สาธารณะเพิ่มสูงยิ่งขึ้น และอาจเผชิญภาวะชัตดาวน์ครั้งใหม่ในเวลาอีกสองเดือนข้างหน้า เนื่องจากการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างพรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน ที่ยังคงรุนแรง ทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งนี้ ความกังวลต่อหนี้สาธารณะสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนของการชัตดาวน์ในอนาคต ยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนทั่วโลกเลือกถือครอง
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 4,000 - 4,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองไทยประมาณ 61,755 - 64,100 บาท (อิงอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 18 พ.ย. ที่ระดับ 32.48 บาท)
พร้อมแนะนำให้นักลงทุนใช้โอกาสนี้ในการ เก็งกำไรภายในกรอบดังกล่าว เพื่อสร้างผลตอบแทนจากความผันผวนที่เกิดขึ้น