กูรูส่งสัญญาณหุ้นไทยยังมีโอกาสฟื้น ชูหุ้นท่องเที่ยว–โรงไฟฟ้าเด่นไตรมาส 4/68

05 พ.ย. 2568 | 06:46 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ย. 2568 | 06:46 น.

โบรกประเมินตลาดหุ้นไทยไตรมาส 4/68 มีแนวโน้มปรับขึ้นแบบ Sideway Up ในกรอบ 1,280 - 1,370 จุด รับแรงหนุนจาก “คนละครึ่งพลัส - เที่ยวดีมีคืน” แนะกลยุทธ์เก็งกำไรหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว - โรงไฟฟ้า

KEY

POINTS

  • บล.โกลเบล็ก คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยในไตรมาส 4/68 มีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะ Sideway Up เคลื่อนไหวในกรอบ 1,280 - 1,370 จุด
  • ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส และเที่ยวดีมีคืน รวมถึงการปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP
  • แนะนำลงทุนในหุ้นกลุ่มเด่นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐ ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว (MINT, ERW, CENTEL) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, BGRIM, GPSC)

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ในช่วงไตรมาส 4/2568 ว่า ดัชนีจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up อยู่ในกรอบประมาณ 1,280 - 1,370 จุด

หลักๆ จากแรงสนับสนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนผ่านการสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนจากภาครัฐ โครงการเที่ยวดีมีคืน ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยประชาชนสามารถขอคืนเงินจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและพักผ่อน

โดยมีปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศ นักลงทุนจับตาโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง ได้แก่ กระทรวงการคลังเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้เป็น 2.4% จากเดิมคาด 2.2% ผลบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐอย่างคนละครึ่งพลัส

รวมถึงภาคการส่งออกขยายตัวดีโดยได้รับแรงหนุนสำคัญจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของ ภาครัฐ เช่น โครงการ "คนละครึ่ง พลัส" และ “เที่ยวดีมีคืน” ในช่วงไตรมาส 4/2568

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนร่วมแก้หนี้ด้อยคุณภาพที่มียอดไม่เกิน 1 แสนบาทเพื่อปรับโครงสร้างหนี้และปลดล็อกเครดิตบูโร ผ่านการโอนซื้อของบริษัทบริหารสินทรัพย์ AMC โดยจะเปิดตัวโครงการวันที่ 11 พ.ย. นี้ 

ด้านภาคอุตสาหกรรม มีการรายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ระดับ 94.56 ขยายตัว 1.02% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 58.13% เนื่องจากยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม

  • 14 พ.ย. กำหนดวันสุดท้ายส่งงบการเงินงวดไตรมาส 3/2568
  • 17 พ.ย. สภาพัฒน์แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 3/68 และ แนวโน้มปี 2568
  • 17 ธ.ค. กำหนดประชุมกนง. ครั้งที่ 6/2568 เป็นครั้งสุดท้ายของปี 2568

ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม

  • 5 พ.ย. ศาลฎีกาสหรัฐฯ มีกำหนด ไต่สวนคดีมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
  • 9-10 ธ.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ และเดือนธ.ค.มีวันหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ซึ่งนักลงทุนสถาบันมักปิดสถานะการลงทุน

นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในไตรมาส 4/2568 ทางฝ่ายแนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงไฟฟ้ารับอานิสงส์จากมาตรการรัฐ: “เที่ยวดีมีคืน” หนุน MINT ERW CENTEL AWC BA AAV ส่วน GULF BGRIM GPSC EGCO RATCH ได้แรงหนุนจาก Direct PPA ดึงลงทุน Data Center