เจาะลึกหนี้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหด 140% ต่อปี กับ 6 ขั้นตอนสู่การหลุดพ้น

28 ก.ย. 2568 | 00:00 น.

หนี้นอกระบบยังเป็นกับดักทางการเงินที่คนไทยจำนวนมากติดอยู่ ดอกเบี้ยสูงเฉียด 140% ต่อปี เสี่ยงทั้งถูกทวงโหดและหมดอนาคต แต่ยังมีทางออกผ่านการวางแผน และปรับพฤติกรรมการเงิน

KEY

POINTS

  • หนี้นอกระบบเป็นทางเลือกที่เข้าถึงง่ายและรวดเร็ว แต่ต้องแลกมากับอัตราดอกเบี้ยที่สูงมากถึง 140% ต่อปี และความเสี่ยงจากการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย
  • บทความได้แนะนำ 6 ขั้นตอนในการปลดหนี้นอกระบบ เริ่มตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลหนี้ ประเมินความสามารถในการชำระ วางแผนการเงิน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย
  • หนึ่งในแนวทางสำคัญคือการหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม โดยภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือให้ลงทะเบียนแก้หนี้ และสามารถขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินของรัฐเพื่อนำไปปิดหนี้ได้

ในช่วงที่เกิดเหตุฉุกเฉินและต้องการเงิน การกู้เงินนอกระบบอาจเป็นทางเลือกอันดับแรก เพราะกู้ง่ายและได้เงินทันที อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตามมา คือ ดอกเบี้ยสูง จ่ายหนี้เท่าไหร่อาจไม่มีวันจบ ทำให้ผู้ที่มีหนี้นอกระบบพยายามหาทางออก และข่าวดี คือ ทุกคนมีทางออก

“ที่คุณไปกู้นอกระบบมา เพราะกู้ง่าย ได้เงินเร็ว”
 “รู้หรือไม่ว่า การกู้หนี้นอกระบบไม่ถูกต้อง อาจเจอการข่มขู่ ทวงหนี้โหด ถ้าไม่ทำตามเงื่อนไข”
 “รู้หรือไม่ว่า กู้เงิน 10,000 บาท ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายสูงขนาดไหน”

ประโยคด้านบน จากการคุยกับผู้ที่มีประสบการณ์กับการกู้หนี้นอกระบบที่เข้ามาขอคำปรึกษาเพื่อหาทางออกให้หลุดพ้นกับวังวนนี้ และแน่นอนว่าการจะประสบความสำเร็จก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเองว่ามีความตั้งใจและมีวินัยทางด้านการเงินมากน้อยแค่ไหน

โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้คำแนะนำว่า แม้ว่าธุรกิจหนี้นอกระบบจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่ปัจจัยสำคัญที่หลายคนยังพึ่งพาหนี้นอกระบบ คือ กู้ง่าย ได้เงินทันที รวมทั้งไม่ต้องมีเอกสารและหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่ต้องตรวจสอบหลักฐานทางการเงิน ทำให้กลายเป็นแหล่งเงินกู้ของผู้ที่ต้องการใช้เงินในภาวะฉุกเฉิน หรือขาดเงินเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

และแม้ว่าผู้ที่กู้เงินนอกระบบจะรับรู้ถึงข้อเสียต่างๆ เช่น ดอกเบี้ยที่สูงมาก อาจถูกข่มขู่ อาจถูกทำร้ายร่างกายหากทำผิดเงื่อนไข แต่หลายคนมีความจำเป็นก็ต้องยินยอมที่จะใช้บริการแหล่งเงินกู้นอกระบบ

ตัวอย่างเช่น กู้เงินนอกระบบ 10,000 บาท จ่ายคืนวันละ 150 บาท เป็นเวลา 3 เดือน คิดดอกเบี้ยจ่าย ดังนี้

1. คำนวณหาจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืนทั้งหมด

เงินที่ต้องจ่ายคืนทั้งหมด = จำนวนเงินจ่ายคืนรายวัน x จำนวนวันใน 1 เดือน x จำนวนเดือน
150 × 30 x 3 = 13,500 บาท

2. เมื่อได้เงินที่ต้องจ่ายคืนทั้งหมด ให้นำไปลบจำนวนเงินที่กู้เพื่อหาจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด

ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด = เงินที่ต้องจ่ายคืนทั้งหมด – จำนวนเงินกู้
13,500 – 10,000 = 3,500 บาท

3. นำดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมดมาคำนวณหาอัตราดอกเบี้ยจ่ายตามระยะเวลาที่กู้เงิน (3 เดือน)

อัตราดอกเบี้ยจ่ายต่อ 3 เดือน = ดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย x 100
จำนวนเงินกู้
3,500 x 100
10,000
เท่ากับ 35% ต่อ 3 เดือน

4. นำไปหาอัตราดอกเบี้ยจ่ายต่อปี เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบกับสินเชื่ออื่นๆ ได้

อัตราดอกเบี้ยจ่ายต่อปี = [(อัตราดอกเบี้ยจ่ายต่อ 3 เดือน) x 12] x 100
จำนวนเดือน
[(35%) x 12] x 100
3
 เท่ากับ 140% ต่อปี

จากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าเงินกู้ที่จ่ายคืนเป็นรายวันในจำนวนไม่มากนัก แต่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 140% ต่อปี (ที่มาของข้อมูล : ธนาคารแห่งประเทศไทย)

ถึงแม้หลายคนอาจมองว่าการหลุดพ้นจากหนี้นอกระบบไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเตรียมตัวให้พร้อมก็จะสามารถทำได้สำเร็จ

ขั้นตอนการปลดหนี้นอกระบบ

1. รวบรวมข้อมูลหนี้สินทั้งหมด ข้อมูลหนี้สินทั้งหมดในที่นี้รวมถึงหนี้นอกระบบทั้งหมดที่กู้มา ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่างวดค้างชำระ เป็นต้น ต้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนี้ให้ครบถ้วน เพื่อที่จะเข้าใจสถานการณ์หนี้สินของตัวเองได้อย่างแท้จริง

  • ตรวจสอบใบแจ้งหนี้ ค่างวดหนี้
  • สอบถามเจ้าหนี้นอกระบบ
  • ตรวจสอบสมุดบัญชีธนาคาร

2. ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ เมื่อมีข้อมูลหนี้สินทั้งหมด ก็ต้องประเมินความสามารถในการชำระหนี้ว่าสามารถชำระทั้งหมดได้หรือไม่ หากไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ ก็จำเป็นต้องเจรจากับเจ้าหนี้นอกระบบเพื่อขอลดหนี้หรือผ่อนผันการชำระ โดยสามารถประเมินความสามารถในการชำระหนี้ ดังนี้

  • คำนวณรายได้และรายจ่ายในแต่ละเดือน
  • กำหนดเป้าหมายการชำระหนี้ในแต่ละเดือน
  • ตั้งเป้าหมายในการปลดหนี้

การตั้งเป้าหมายในการปลดหนี้จะช่วยให้มีกำลังใจในการต่อสู้กับหนี้สิน เป้าหมายในการปลดหนี้ควรมีความเป็นไปได้และมีความชัดเจน เช่น ต้องการชำระหนี้ทั้งหมดภายในกี่ปี หรือต้องการชำระหนี้อย่างน้อยเดือนละเท่าไหร่

3. วางแผนการชำระหนี้ เมื่อตั้งเป้าหมายในการปลดหนี้แล้ว ต้องวางแผนการชำระหนี้เพื่อให้ตัวเองสามารถชำระหนี้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ด้วย เช่น ความสามารถในการชำระหนี้ ดอกเบี้ยของหนี้สิน และระยะเวลาในการปลดหนี้

4. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายจะช่วยให้มีเงินเหลือเพียงพอสำหรับชำระหนี้ เช่น งดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น วางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า หรือบันทึกรายรับและรายจ่าย เป็นต้น

5. หาแรงจูงใจในการปลดหนี้ การหาแรงจูงใจในการปลดหนี้จะช่วยให้มีกำลังใจในการต่อสู้กับหนี้สิน แรงจูงใจในการปลดหนี้อาจเป็นอะไรก็ได้ เช่น การต้องการมีสุขภาพที่ดี การต้องการมีเวลาให้กับครอบครัว การต้องการมีความมั่นคงในชีวิต เป็นต้น

6. หาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม หากความสามารถในการชำระหนี้ไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้นอกระบบทั้งหมด อาจจำเป็นต้องหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม โดยปัจจุบันรัฐบาลได้ออกมาตรการแก้ไขหนี้นอกระบบ โดยสามารถลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือด้วยตัวเองที่เว็บไซต์ debt.dopa.go.th (กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย)

หากไม่สามารถดำเนินการได้เองทางระบบออนไลน์ สามารถเดินทางไปลงทะเบียนด้วยตัวเอง กรณีอยู่ในพื้นที่อำเภอให้ลงทะเบียน ณ ที่ว่าการอำเภอ และหากอยู่ในกรุงเทพมหานคร ให้ลงทะเบียนที่สำนักงานเขตทุกแห่ง หรือผ่านช่องทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน โดยหากเป็นผู้มีอาชีพ มีรายได้ และมีหนี้นอกระบบ สามารถขอกู้เงินสูงสุด 50,000 บาท ผ่อน 5 ปี ดอกเบี้ย 0.75% ต่อเดือน

การปลดหนี้นอกระบบไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเตรียมตัวให้พร้อมและมีความมุ่งมั่นก็จะสามารถเป็นไท และสร้างชีวิตที่ดีขึ้นได้

 

 

แหล่งที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)