หุ้นไทยวันนี้แกว่งขาขึ้น กรอบ 1,200 - 1,230 จุด ลุ้นผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่

22 ก.ค. 2568 | 03:04 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ค. 2568 | 03:04 น.

หุ้นไทยวันนี้ (22 ก.ค.68) แกว่งขึ้นในกรอบ 1,200 - 1,230 จุด เกาะติด ประชุม ครม. คาดเสนอชื่อผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ หนุนโอกาสลดดอกเบี้ย กระตุ้นจิตวิทยาบวก โดยกลยุทธ์ยังเน้นย่อสะสมหุ้นคาดแนวโน้มกำไรดี

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) วิเคราะห์หุ้นไทยวันนี้ (22 ก.ค.68) ว่า ปัจจัยต่างประเทศยังคงจับตาบทสรุปของมาตรการภาษีสหรัฐฯ ต่อประเทศ ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีกำหนดเส้นตาย เริ่มใช้ในวันที่ 1 ส.ค. นี้

โดยยังคงดาดหวังอัตราภาษีของประเทศต่างๆจะลดลงจากรอบก่อน ช่วยกระตุ้นจิตวิทยาเชิงบวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังแนะติดตามการทยอยรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่เตรียมรายงานในเร็วๆ นี้ (GOOGL, TSLA)

ด้าน Dollar Index อ่อนค่าลง สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ย่อตัวเช่นกัน บ่งชี้ความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยในช่วง ครึ่งหลังของปี โดยคืนนี้แนะติดตามถ้อยแถลงของเจอโรม โพเวลที่กรุง วอชิงตัน ดีซี

ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้ เน้นไปที่การประชุม ครม. ซึ่งคาดจะมีวาระการเสนอชื่อผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ โดยคาดว่าไม่ว่าใครจะได้รับตำแหน่ง (ดร.รุ่ง VS คุณวิทัย) ก็น่าจะสนับสนุนโอกาสในการลดดอกเบี้ยไทยในช่วงถัดไป ถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นมากขึ้น

สำหรับผลประกอบการณ์กลุ่มธนาคารในไตรมาส 2/68 พบว่า 7 ธนาคารหลักมีกำไร รวม 5.6 หมื่นล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน แต่ดีขึ้นจากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ดีกว่าตลาดคาด 10%

ส่วนช่วงถัดไป แนะจับตาอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยกลยุทธ์ยังมองจังหวะย่อเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มกำไรดี, PE ไม่แพง และมีปันผลอยู่ในระดับที่น่าสนใจ

ปัจจัยที่ต้องจับตา

22 ก.ค.

  • การประชุม ครม.

23 ก.ค.

  • ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน

24 ก.ค.

  • ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ
  • ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ
  • PMI ภาคการผลิตและ บริการของสหรัฐฯ & ยูโรโซน & ญี่ปุ่น
  • การประชุม ECB

หุ้นเด่นแนะนำ

SGC ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 1.04 บาท

  • ดาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68 ยังคงปรับขึ้นต่อเนื่องทั้งจากไตรมาสก่อน และเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งเป็นการ ปรับขึ้น 6 ไตรมาสติดต่อกัน แรงหนุนจากสินเชื่อ Lock Phone ที่ดาดยังเร่ง ตัวสู่ระดับ 1.8 พันล้านบาท (+5.5% จากไตรมาสก่อน)
  • แนวโน้มไตรมาส 3 กำลังเข้าสู่ฤดูกาลออกมือถือรุ่นใหม่ คาดว่ายังเป็นปัจจัยหนุนให้กำไรครึ่งหลังยังดีต่อเนื่อง ขณะที่ Valuation ปัจจุบันซื้อขายเพียง PE 10 เท่า เป็นจังหวะน่าทยอยสะสม