ศึกอิสราเอล–อิหร่าน กดดันตลาดหุ้น ซัพพลายน้ำมันลด-ราคาน้ำมันพุ่ง

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากกรณีที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน จะมีผลกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงตลาดหุ้นไทย มากน้อยแค่ไหนนั้น

มองว่าในระยะสั้นอาจมีผลกระทบอยู่บ้างแต่ยังไม่มากนัก แต่ถ้าสถานการณ์ยังมีความยืดเยื้อต่อไป เชื่อว่าจะกระตุ้นให้กระแสเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นไทย ไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) เช่น ทองคำ เป็นบวกต่อ GOLD19

ส่วนต่างราคาน้ำมันและปิโตรเคมี (Spread) จะกระทบมากน้อยแค่ไหน หลังจากมีโอกาสที่ซัพพรายลดลงจากการเกิดสงครามในตะวันออกกลางนั้น ประมาณการณ์ว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันของอิหร่านอยู่ที่ 1.5 ล้านบาร์เรล คิดเป็น 1-2% ของความต้องการใช้น้ำมันในแต่ละวัน

แต่ปกติอิหร่านมักจะขู่ปิดช่องแคบฮอมุสตามมา ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันราว 20% ของโลก ถ้าหากปิดจริงเชื่อว่าจะกระทบอุปทานน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญ และจะหนุนให้ราคาน้ำมันเร่งตัวขึ้น รวมถึง Spread ปิโตรเคมีที่มีโอกาสกว้างขึ้นตามมา 

ในแง่ของผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีมากน้อยแค่ไหนนั้น เชื่อว่าผลกระทบต่อกลุ่มปิโตรเคมี อาจเป็นลบในช่วงแรก จากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าสุดท้ายต้นทุนพลังงานยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะไปผลักดันให้สินค้าขั้นปลาย หรือปิโตรเคมี ปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม

ประเด็นกรมสรรพากรคาดการณ์งบการเงินบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีของไทยปี 2568 ลดลง ส่งผลต่อการเสียภาษีในรอบครึ่งหลังปี 2567 - 2568 ที่ลดลงนั้น มองเป็นผลสอดคล้องกับการถูกกดดันจากส่วนต่างปิโตรเคมีที่ลดลง จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และอุปทานจากจีนที่เพิ่มขึ้น

"แต่หากถ้าเศรษฐกิจจีนสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในช่วงครึ่งหลังปี 2568 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงิน และนโยบายการคลัง เชื่อว่าจะช่วยหนุนให้ส่วนต่างปิโตรเคมีค่อยๆ ฟื้นตัวกลับได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้"

โอกาสเก็งกำไรระยะสั้น

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า กรณีอิสราเอลโจมตีอิหร่านจะสร้างแรงกดดันระยะสั้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ตลาดหุ้น) หากไปดูในอดีตที่ผ่านมาความไม่สงบในตะวันออกกลางก็มักเกิดขึ้นเป็นประจำ

แต่ในระยะสั้นอีกสินทรัพย์อย่าง "ทองคำ" ก็มีแนวโน้มเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น จากความกังวลตะวันออกกลางและสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน แม้ทรัมป์จะระบุว่า การเจรจากับจีนเป็นไปได้ด้วยดี แต่ถึงอย่างนั้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนก็ยังสูงที่ระดับ 55%

ในส่วนของตลาดหุ้นไทยระยะสั้นก็จะเป็นปัจจัยหนุนกับกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้คาดหวัง Upside ที่เยอะมากทั้งในเชิงของราคาหุ้นและกำไร ด้วยสถานการณ์โลกที่ไม่นิ่ง (กดดันอุปสงค์) กลยุทธ์ในกลุ่มนี้จึงอาจเป็นเพียงเก็งกำไรระยะสั้น