กูรูเตือนนักลงทุน เล่น "หุ้น MGI" เกมของคนอื่น ลุกช้าเจ็บตัว

21 ก.พ. 2567 | 07:42 น.

หุ้น MGI ราคาพุ่ง 20% หลังตลาดหลักทรัพย์ปลดห่วง "P" ดันราคายืนเหนือ 41.50 บาท จากราคาจองซื้อ 4.95 บาท กูรูชี้ธุรกิจผลการดำเนินงานอาจมีอนาคตไกล เตือนนักลงทุนศึกษาให้ดี ใครลุกช้ากว่าอาจ "เจ็บตัว"

จากกรณีที่ ราคาหุ้นบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น MGI ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงของ หลังจากที่ถูกปลดเครื่องหมาย P ไปในวันนี้ (21 ก.พ.67) ราคาหุ้นยังถูกดันต่อไปชน 41.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท เปลี่ยนแปลง 20.29% (ณ เวลา 14.38 น.)

ต่อเรื่องดังกล่าว นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวว่า อาจเป็นเพราะ VI (หรือ Value Investor คือ การลงทุนซื้อหุ้นจะซื้อเฉพาะหุ้นที่มี Intrinsic Value หรือมูลค่าที่แท้จริงสูงกว่าราคาตลาดของหุ้นมากพอที่จะทำให้มี  Margin of Safety หรือ ส่วนเผื่อของความปลอดภัยในการลงทุน และขายหุ้นเมื่อราคาสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง) พิจารณากำไร จากการมองเห็นถึงอนาคตเวทีนางงามอย่าง "มิสแกรนด์" เป็นสตอรี่ ที่เป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจของประชาชน รวมถึงการเดินหน้าจัดงานอีเวนท์ ที่สร้างรายได้และกำไรให้เป็นกอบเป็นกำ

"อยากให้นักลงทุนไตร่ตรองตกผนึกความคิดให้ดีอีกครั้ง เพราะนี่อาจไม่ใช่ "เกม" ของเรา และ หากลงไปเล่นเกม ต้องจำให้ขึ้นใจว่าใครลุกช้า คนนั้นก็ "เจ็บ" ดังนั้น จะมาโอดครวญทีหลังไม่ได้ มองว่าการลงทุนนั้นไม่มีใครผิด หรือ ถูก มันขึ้นอยู่กับผลที่ตามมา เมื่อลงทุนและได้กำไร ก็แสดงว่ามาถูกทาง ในทางกลับกันหากลงทุนไปตามทฤษฎีแต่ยังขาดทุน นั้นก็หมายความว่าเรากำลังหลงทางแล้ว"

ทั้งนี้ หากไปลองดูในประวัติศาสตรหุ้นไทยที่ภายใน 1 เดือน ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินกว่า 100% มีมากมายหลายตัว อาจมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก แต่จะมีสักกี่ตัวที่มันไปต่อได้ ซึ่งในกรณีของ JKN ก็เคยเป็นในลักษณะเช่นนี้มาก่อนเหมือนกัน บทสรุปสุดท้ายก็เห็นอยู่ว่าไม่รอด มีเพียงตัวเดียวที่ราคาเพิ่มขึ้นและยังยืนอยู่ได้ในปัจจุบัน คือ DELTA

ขณะที่ นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน เปิดเผยว่า ต้องบอกว่า หุ้น MGI เป็นหุ้นที่ประเมินได้ค่อนข้างยาก และการดำเนินธุรกิจของ MGI เป็นเรื่องที่ใหม่มา เพราะมุ่งเน้นที่ธุรกิจการทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing หรือ รูปแบบการทำการตลาดให้กับบุคคลหรือบริษัทอื่นด้วยการโปรโมตสินค้าและบริการผ่านช่องทางของบริษัท และจะเห็นได้ว่าการเติบโตของผลการดำเนินงานที่จริงแล้วเป็นผลมาจากขายเกือบทั้งสิ้นไม่ใช่เวทีนางงาม

ข้อดีของการทำธุรกิจการทำการตลาดแบบ Affiliate Marketing นั้นคือ MGI ไม่ต้องมีต้นทุนจมจากการสต๊อกสินค้าคงคลัง ไม่ต้องวุ่นวายกับระบบหลังบ้าน มีหน้าที่เพียงให้นำเสนอผลิตภัณฑ์ แนะนำ และติดตระกร้าสินค้าไว้ ซึ่งจากการที่สร้างความผูกพันธ์ระหว่างนางงามและแฟนคลับ ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างแข็งแกร่ง ทำให้การแนะนำสินค้าต่างไ ได้รับความน่าเชื่อถือและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้

ซึ่งแตกต่างจาก JKN ที่เป็นสื่อ ธุรกิจหลักคือการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ซึ่งต้องมีการลงทุนซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์มาในราคาที่สูง และกว่าที่จะรับรู้รายได้ก็ต้องใช้ระยะเวลา ทำให้เงินทุนขาดสภาพคล่อง และกลายเป็น "เงินจม" ในท้ายที่สุด

ส่วนการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงของ MGI ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ คงต้องให้นักลงทุนกลับไปพิจารณาดูอย่าถี่ถ้วนอีกครั้ง ว่าราคาตอนนี้สะท้อนถึงศักยภาพของธุรกิจล้วหรือยัง และทำความเข้าใจว่าธุรกิจของ MGI แท้จริงแล้วคืออะไร มีกำไรมาจากช่องทางไหน และมีอนาคตมากน้อยแค่ไหน รวมถึงต้องยอมรับความเสี่ยงหากเข้าไปร่วมเล่นเกมในเวลานี้ ต้องยอมรับว่าคนที่ถือราคาต้นทุน IPO ที่ระดับ 4.95 บาท มีโอกาสขายทำกำไรได้ เพราะราคาหุ้นขณะนี้วิ่งไปไกลกว่า 700% แล้ว

ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมข้อมูล บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN พบว่า นำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้เมื่อ 30 พ.ย. 2560 ในราคาหุ้นละ 8 บาท โดยเปิดซื้อขายวันแรก (เทรด) อยู่ที่ 9 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 9.90 บาท และ ราคาทำระดับต่ำสุดที่ 8.25 บาท โดยราคาหุ้นเคยทะยานขึ้นไปทำนิวไฮที่ระดับ 16.29 บาท ในวันที่ 31 มกราคม 2561 กลับมาที่ปัจจุบัน วันนี้ (21 ก.พ.67) ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.82 บาท (ณ เวลา 14.05 น.) ระห่างวันปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 0.62 บาท อย่างไรก็ดี JKN ยังถูกขึ้นเครื่องหมาย C และ NP กำกับอยู่