หุ้นตรุษจีนคึกคัก หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม-อาหาร-โรงพยาบาล รับอานิสงส์

28 ม.ค. 2567 | 05:00 น.

โบรกคาดตรุษจีนปี 2567 คึกคัก ท่องเที่ยวฟื้นตัว การจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ส่งอานิสงส์เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มการบิน โรงแรม และอาหาร ชู AOT AAV MINT CPF TFG เป็นพระเอก และอานิสงส์ทางอ้อมกลุ่มโรงพยาบาล BH BCH

จากกระแสช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังใกล้จะมาถึง ในช่วงระหว่างวันที่ 8-10 กุมพาพันธ์ 2567 นี้ ที่ประกอบด้วย วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว ซึ่งถือว่าเป็นอีกเทศกาลที่เข้ามามีช่วยสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจว่าจะมีหุ้นกลุ่มไหนบ้างที่จะได้รับอานิสงส์จากช่วงเทศกาลตรุษจีน

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด มหาชน เปิดเผยว่า เชื่อว่าเทศกาลตรุษจีนปี 2567 นี้ จะมีความคึกคักมากกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการเดินทางระหว่างประเทศที่มีความสะดาวกมากขึ้น มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐที่ปล่อย ฟรีวีซ่า ให้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศอย่าง จีน ไต้หวัน และอินเดีย จะมีผลทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยดีขึ้น โดยมองว่ากลุ่มหุ้นที่จะได้รับอานิสงส์จากเทศกาลตรุษจีนมากที่สุดคงเป็นกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับการบินและโรงแรม แนะนำ AAV และ CENTEL ค่อนข้างน่าสนใจ
 

ประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวว่า กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้เข้ามาถึงนั้น มองว่าจะมี 3 กลุ่มหลักๆ โดยกลุ่มแรก คือ หุ้นกลุ่มอาหารและเนื้อสัตว์ ตามความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น แนะนำ CPAXT CPF ที่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการ "Easy E-Receipt" และ GFPT

ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ หุ้นกลุ่มโรงแรม ที่ได้รับอานิสงส์จากการเดินทางท่องเที่ยว แนะนำ ERW CENTEL และ MINT โดย MINT ค่อนข้างน่าสนใจที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากมีการดำเนินงานในปี 2567 ที่ชัดเจน มีการเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่เพิ่มมากขึ้น การบริโภคที่เพิ่มขึ้นหนุนให้ธุรกิจร้านอาหารมีการเติบโตได้อย่างชัดเจน

และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มการบิน จากความต้องการเดินทางท่องเที่ยว ทำให้สังเกตได้ว่านับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 ธุรกิจสายการบินมีการเพิ่มความถี่ของเที่ยวบิน ขยายเส้นทางการบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศมากขึ้น แนะนำ AOT สำหรับกลุ่มค้าปลีก ยังไม่แนะนำในตอนนี้ เนื่องจากยังมีแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เผยว่า เทศกาลตรุษจีนที่ใกลเข้ามาถึงแล้วนั้น ส่วนตัวมองว่าประเด็นอาจยังไม่มีน้ำหนักมากนักและเป็นเพียงปัจจัยเชิงบวกในระยะสั้นๆ ผลกระทบเชิงบวกไม่ได้เยอะขนาดนั้น แต่เชื่อว่ากลุ่มที่จะได้ผลประโยชน์มากที่สุดคงเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายเนื้อหมูและเนื้อไก่ แนะนำ CPF TFG BTG กลุ่มเครื่องดื่ม แนะนำ OSP และ CBG ขณะที่ CPALL CPAXT มองว่าคงต้องขึ้นอยู่กับมาตรการดิจิทัลวอลเล็ตว่าจะสามารถทำได้จริงหรือไม่

ทั้งนี้ มองว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะเป็นช่วงวันหยุดของชาวจีน มีผลกับการส่งออกและนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน กว่าจะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติก็หลังช่วงเทศกาลตรุษจีนผ่านพ้นไปแล้ว แต่ด้วยดีมานด์ที่กลับมานั้นจะช่วยหนุนให้ค่าระวางเรือฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งในกลุ่มนี้ก็น่ามอง สำหรับกลุ่มค้าปลีกนั้น ได้แก่ HMPRO COM7 ต้องยอมรับว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/2566 อาจไม่ดี การตัดสินใจซื้อชะลอตัวลง แต่คาดว่ายอดขายจะกลับมาขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 1/2567 กลยุทธ์การลงทุนในกลุ่มนี้ มองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเก็บช่วงที่ราคากำลังต่ำ แล้วค่อยทยอยขายก่อนงบไตรมาส 1/2567 ออก

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้จากเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เข้ามาช่วยในการของการจับจ่ายใช้สอย และการบริโภคได้บ้าง แต่มองว่าตัวแปรดังกล่าวไม่ได้ทำให้ภาพรวมตลาดการลงทุนดีขึ้น เพราะยังคงเป็นช่วงของการรายงายงบของ บจ. ซึ่งต้องยอมรับว่าผลประกอบการในปี 2566 อาจไม่ค่อยเป็นไปตามที่คาดหวังนัก

แต่ก็มองว่าเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลได้เพราะราคาหุ้นปรับตัวลงไปมากแล้ว กลยุทธ์การลงทุนนั้น ให้เน้นไปที่หุ้นกำไรปี 2567 ดี สามารถยืนได้ โดยแนะนำ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มโรงพยาบาล อาทิ BH และ BCH ที่ได้อานิสงส์จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) และกลุ่มธนาคาร ได้แก่ BBL KTB และ SCB ที่คาดว่าจะกลับมามีกำไรที่แข็งแรง

นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มแรกที่จะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากเทศกาลตรุษจีน คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายเนื้อหมูและเนื้อไก่ ได้แก่ CPF GFPT TFG BTG ตามความต้องการบริโภคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเทศกาลฯ ประกอบกับหลังจากที่ภาครัฐลงแรงปราบปรามหมูเถื่อน ไก่เถื่อน ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ความกังวลใจต่อการบริโภคเนื้อหมูและเนื้อไก่คลายตัวลงมากแล้ว ทำให้ราคาเนื้อหมูสดและเนื้อไก่สดในปัจจุบันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ TU ก็มีความน่าสนใจ แม้ว่าจะเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มุ่งเน้นไปที่อาหารทะเลครบจงวร แต่ก็เชื่อว่าปลาจะเป็นที่ต้องการในช่วงเทศกาลด้วยเช่นกัน

มองว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะเป็นอีกกระแสที่ช่วยดึงดูดการท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน ทำให้มองว่ากลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะกลับมามีความคึกคักมากขึ้น โดยมอง AOT และ AAV จะได้รับผลบวกในเชิงของการเดินทางระหว่างประเทศ อีกทั้งด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มองว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนได้ในช่วงนี้ ขณะที่ ERW และ CENTEL จะได้รับผลบวกจากการเดินทางท่องเที่ยวและพักผ่อน

กลุ่มค้าปลีก (Retail) นั้น ก็คาดว่าจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลด้วยเช่นกัน รวมไปถึงการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค ของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้ด้วยเช่นกัน ได้แก่ BJC CPAXT CPN และ CRC