เปิดโผ 15 หุ้น ได้อานิสงส์นโยบาย"เงินดิจิทัล และ e-Refund "

12 พ.ย. 2566 | 06:35 น.

2 โบรกเปิดโผหุ้นจาก 5 กลุ่มอุตสาหกรรม "อุปโภคบริโภค-ท่องเที่ยว-อาหาร-การเงินโฆษณา " ได้รับประโยชน์จากนโยบาย"เงินดิจิทัล และ e-Refund"

จากการนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เคาะรายละเอียดเงินดิจิทัล "Digital Wallet" และออกโครงการ e-Refund โดยมีเงื่อนไขดังนี้

Digital Wallet : ชาวไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป และมีรายได้ไม่เกิน 70,000 บาท/เดือน หรือ เงินฝากต่ำกว่า 5 แสนบาท กลุ่มเป้าหมายประมาณ 50 ล้านคน โดยให้สิทธิ์ใช้ในระยะ 6 เดือน ครอบคลุมการใช้จ่ายในระดับอำเภอตามบัตรประชาชน ระยะเวลาโครงการเริ่มเริ่ม 1 พฤษภาคม 2567 - 31 ตุลาคม 2567  โดยแหล่งที่มาเงินทุน คือ จำนวน 5.0 แสนล้านบาท การออก พ.ร.บ. วงเงินกู้เงิน 5.0 แสนล้านบาท และต้องผ่านกระบวนการสภา ขณะที่จะจัดสรรงบประมาณมาคืนเงินกู้ตลอด 4 ปี

ส่วนเงื่อนไv e-refund ครอบคลุมผู้ที่ไม่ได้เข้าโครงการ Digital Wallet รัฐบาลประเมินกลุ่มเป้าหมายราว 4 ล้านคน สามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้ในวงเงิน 50,000 บาท ตั้งแต่ ม.ค. 2567 เป็นต้นไป

 

ทั้งนี้เม็ดเงินโครงการรวมทั้งสิ้น 6 แสนล้านบาท  โดย 5 แสนล้านบาท มาจากโครงการ Digital Wallet และ 1 แสนล้านบาท  รัฐจะนำเงินไปใส่ในกองทุนเสริมสร้างการแข่งขันใน 13 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (New S Curve) รวมถึงคาดหวังวงเงินจาก e-Refund ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 1-2 แสนล้านบาท คาดเม็ดเงินรวมจะกระตุ้นเศรษฐกิจที่สูงกว่าคาดสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจไทยให้โต 5%

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส เผยกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายเงินดิจทัล / e- refund ได้แก่

  • 1.กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL, ERW
  • 2.กลุ่มอาหาร  MINT, M , AU
  • 3.กลุ่มห้างสรรพสินค้า  CPN 
  • 4.กลุ่มการเงินและโฆษณา KTC , AEONTS
  • 5.กลุ่มอุปโภคบริโภค CPAXT , HMPRO , ADVANC , COM7 , CRC,  CPALL และ BJC

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ความชัดเจนจากนโยบาย "Digital Wallet" มองว่ามีโอกาสสร้างความเชื่อมั่นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ผสานจำกัดกลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค จะช่วยเม็ดเงินสร้างประสิทธิภาพได้ไม่ต่างจากแผนเดิม

 

  • ในส่วนของ Digital Wallet ประเมินบวกต่อกลุ่ม Consumer Staple เน้น CPALL, CPAXT, DOHOME, GLOBAL ที่มีข้อได้เปรียบร้านค้า
  • ส่วนนโยบาย E-refund เน้นการจับจ่ายออนไลน์ มองบวกต่อกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย อาทิ COM7, CRC, JMART
  • นอกจากนี้ กำลังซื้อที่ดีขึ้น จะหนุนกลุ่มเช่าซื้อ MTC รวมถึงติดตามหนี้
  • การพัฒนาระบบ Blockchain บน Platform เป๋าตัง จะนำไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล บวกต่อกลุ่ม Digital Tech BBIK, BE8, ADVANC

 

สรุป :  กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์นโยบาย Digital Wallet ชัดเจนและการเร่งกระตุ้นบริโถครัฐบาล E-Refund ได้แก่  CPAXT, DOHOME, GLOBAL, CRC, COM7, MTC  ,กลุ่มดิจิทัล BBIK, BE8 และ  ADVANC