"ธุรกิจครอบครัว"ครองมาร์เก็ตแคปตลาดถึง 43% เติบโตกระจายทุกหมวดธุรกิจ
เผย 451 บจ.ที่เป็น "ธุรกิจครอบครัว"มีมาร์เก็ตแคปรวมกันถึง 8 ล้านล้านบาท ครองส่วนแบ่งถึง 43% และในช่วง 7 ปี ยังพบว่า 149 บจ. ธุรกิจครอบครัว มีการระดมทุน IPO กว่า 3.08 แสนล้านบาท
จากการศึกษา “ธุรกิจครอบครัว” (family business) ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (ตลาดหุ้นไทย) จำนวน 791 บริษัท พบว่า
57% ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหุ้นไทยทั้งหมดที่เป็นธุรกิจครอบครัว มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด รวม 43% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด กระจายตัวในเกือบทุกหมวดธุรกิจ ส่วนใหญ่อยู่ในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดพาณิชย์ หมวดการแพทย์ และกลุ่มบริการในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ
โดย ณ สิ้นปี 2565 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทจดทะเบียนที่เป็น ธุรกิจครอบครัว 451 บริษัทมีมูลค่ารวม 9.07 ล้านล้านบาท คิดเป็น 43.2% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด (total market Capitalization) โดยเมื่อพิจารณาการเติบโตของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นธุรกิจครอบครัวในช่วงปี 2560 - 2565 พบว่า เติบโตเฉลี่ย (Compound Annual Growth Rate) ปีละ 6.7% โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาหลักทรัพย์และการเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ (IPO) และผลประกอบการของกิจการ
อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 บริษัทจดทะเบียนที่เป็นธุรกิจครอบครัว มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม ลดลงมาอยู่ที่ 8.06 ล้านล้านบาท ลดลง 11.1% จากสิ้นปี 2565 ที่สำคัญจากการลดลงของราคาหลักทรัพย์ โดยในช่วงเวลาดังกล่าว SET Index ปรับตัวลดลง 11.0% และยังไม่ได้พิจารณารวมถึงบริษัทจดทะเบียนที่เป็นธุรกิจครอบครัวที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566
ธุรกิจครอบครัวอาศัยกลไกระดมทุนในตลาดหุ้นไทย เสริมสร้างความเติบโตของกิจการ ซึ่งพบว่า บริษัทจดทะเบียนที่เป็นธุรกิจครอบครัวมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากขนาดของกิจการ การระดมทุน การสร้างรายได้และการสร้างผลกำไร โดยในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา มีธุรกิจครอบครัว 149 บริษัท (จากทั้งหมด 212 บริษัทเป็นธุรกิจครอบครัว หรือ 70% ) มีมูลค่าระดมทุนครั้งแรกรวมกว่า 308,306 ล้านบาท คิดเป็น 58% ของมูลค่าระดมทุนทั้งหมด
บริษัทจดทะเบียนที่เป็นธุรกิจครอบครัวให้ความสำคัญกับการเติบโตยั่งยืน โดยพบว่า 86 บริษัท ผ่านการคัดเลือกและอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2565 (จากรายชื่อทั้งหมด 170 บริษัท) โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 6.42 ล้านล้านบาท คิดเป็น 35% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด
บริษัทจดทะเบียนที่เป็นธุรกิจครอบครัวเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ในปี 2565 บริษัทจดทะเบียนที่เป็นธุรกิจครอบครัวมีรายได้รวมสูงถึง 39.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ และ จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมสูงกว่า 101,589 ล้านบาท คิดเป็น 13.6% ของภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งระบบที่กรมสรรพากรจัดเก็บ
ณ สิ้นปี 2564 บริษัทจดทะเบียนเหล่านี้มีการจ้างพนักงานรวมสูง 925,256 คน โดยเฉพาะการจ้างงานในกลุ่มเกษตรและอาหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มบริการ ที่บริษัทเหล่านี้มีการจ้างพนักงานในสัดส่วนที่สูงกว่า 60% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดที่มีการจ้างงานในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นๆ
