ดาวโจนส์ปรับบวกเล็กน้อย หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ

26 ก.ค. 2566 | 23:43 น.

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อยในวันพุธ (26 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด และส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาต

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,520.12 จุด เพิ่มขึ้น 82.05 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,566.75 จุด ลดลง 0.71 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,127.28 จุด ลดลง 17.27 จุด หรือ -0.12%

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี และเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 11 นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยรวม 5.25%

 

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคตนั้น เฟดจะตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง รวมทั้งพิจารณาถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในเวลานั้น โดยเฟดจะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น

ในระหว่างการแถลงข่าว นายพาวเวลไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากจำเป็น โดยกล่าวว่า "มีความเป็นไปได้ว่าเราอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนก.ย. หากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าวสนับสนุนให้เราดำเนินการเช่นนั้น และในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ที่เราอาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนด้านนโยบายของเรา"

 

นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า แถลงการณ์ของเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต อย่างไรก็ดี ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ยังคงคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.

ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัท Northwestern Mutual Wealth Management กล่าวว่า "ถ้อยแถลงของนายพาวเวลมีความชัดเจนว่า เฟดจะรอดูข้อมูลเศรษฐกิจก่อนที่จะตัดสินใจครั้งต่อไป และผมคิดว่าเฟดจะไม่หยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะเห็นการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากค่าจ้าง (wage inflation)"

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวผันผวนหลังจากนักลงทุนรู้ผลประชุมเฟดและถ้อยแถลงของนายพาวเวล โดยดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเล็กน้อย หลังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทโบอิ้ง แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 2.5% สู่ระดับ 697,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 725,000 ยูนิต จากระดับ 715,000 ยูนิตในเดือนพ.ค. โดยยอดขายบ้านใหม่ได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่อยู่ในระดับสูง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ปรับตัวสูงขึ้น

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนมิ.ย.

ส่วนในวันพรุ่งนี้จะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)