DSI ออกหมายจับ 3 ราย คดีหุ้น STARK “ศรัทธา-ยสบวร” รับทราบข้อกล่าวหา

21 ก.ค. 2566 | 08:55 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ค. 2566 | 09:03 น.

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เผย 1 เดือนคดีหุ้น STARK คืบหน้าออกหมายจับ 3 ราย “ศรัทธา-ยสบวร” รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เร่งตามตัว “ชนินทร์” หลบหนีต่างประเทศ อายัดทรัพย์เพิ่มที่ดิน 2 แปลง และบ้าน 1 หลัง

(21 ก.ค. 66) หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับคดีการทุจริตใน บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "STARK" เป็นคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 66 ระยะเวลาช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทาง DSI ได้เร่งดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดนางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงความคืบหน้าคดี หุ้น "STARK" ว่า ทาง DSI ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาร่วม 3 ราย ประกอบด้วย นายชนินทร์ เย็นสุดใจ, นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ และนางสาวยสบวร อำมฤต

โดยทางพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาแล้วรวม 2 ราย คือ นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ และนางสาวยสบวร อำมฤต 

สำหรับนายศรัทธา ได้มีการเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนระยะเวลาที่กำหนด โดยเบื้องต้นได้ให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา

ขณะที่ในส่วนของ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ได้มีการออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ผู้ต้องหาขอเลื่อนนัด โดยอ้างเหตุป่วย พร้อมมีใบรับรองแพทย์มาแสดงประกอบเหตุขอการเลื่อนนัด

DSI แถลงความคืบหน้าคดีหุ้น STARK

ขณะที่นายชนินทร์ เย็นสุดใจ หลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งทาง DSI เร่งประสานประสานองค์การตำรวจสากล (Interpol) ผ่านกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งข้อมูลบุคคลตามหมายจับรายนี้ 

โดยขอความร่วมมือออกประกาศองค์การตำรวจสากลสีน้ำเงิน (หมายน้ำเงิน) ในสารบบฐาน i24/7 เพื่อความร่วมมือสมาชิกตำรวจสากล จำนวน 149 ประเทศทั่วโลก ในการสืบสวนหาถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหา 

พร้อมกันนี้ยังได้อายัดทรัพย์ของ นายชนินทร์ เพิ่มเติมประกอบด้วยที่ดินจำนวน 2 แปลง และบ้านจำนวน 1 หลัง ไว้เพื่อตรวจสอบตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ได้มีการสอบสวนพยานบุคคลซึ่งเป็นพนักงานในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัทเฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัท ไทยเคเบิ้ล อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด ไว้จำนวนหนึ่งแล้วเพื่อประกอบการสอบสวน

สำหรับการตรวจสอบ เส้นทางการเงิน ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยจะต้องดูครบรอบในทุกด้าน ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางการข่าวมีการได้รับรายงานถึงการโยกย้ายเงินออกนอกประเทศ โดยยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากกระบวนการยังอยู่ในชั้นการสอบสวน

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นในคดีทุจริตหุ้น STARK มีมูลค่าความเสียหาย สำหรับผู้ถือหุ้นกู้วงเงิน 9,198 ล้านบาท และผู้ถือหุ้นสามัญอีก 14,478 ล้านบาท

ทั้งนี้ทางอธิบดี DSI ได้มีสั่งการ โดยเน้นย้ำให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เร่งติดตามยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยเร็วที่สุด