บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ก.ค.66) ว่าจากประเด็นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขาดคุณสมบัติการเป็น สส.หรือไม่จากประเด็นการถือหุ้นสื่อ บมจ.ไอทีวีจำนวน 42,000 หุ้น
บล.ทิสโก้ คาดการณ์ว่าบรรดาหุ้นที่อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกลจะปรับตัวขึ้น แต่ทั้งนี้โอกาสที่พรรคก้าวไกลจะไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ มีมากขึ้น ทำให้การเมืองไทยมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นอาจเผชิญความผันผวนในระยะสั้น โดยความผันผวนดังกล่าวก็ขึ้นอยู่กับการเมืองนอกสภา เช่น การประท้วง
โดยมองว่าไทยจะยังไม่ได้นายกฯคนใหม่ในการประชุมสภาวันที่ 13 ก.ค.นี้ และถึงแม้ชื่อนายกฯ ที่ถูกเสนอจะเป็นคนจากพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าบรรดาสว.จะยังคงงดออกเสียง เนื่องจากพรรคก้าวไกลจะยังคงเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล มีโอกาสที่สภาใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะสามารถตั้งนายกฯได้ ซึ่งนายกฯ อาจเป็นคนจากพรรคเพื่อไทย หรือจากพรรคแกนนำรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ทั้งนี้บล.ทิสโก้แนะถือเงินสดเก็บหุ้นพลังงาน และหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ หรือ Domestic Play และหากตลาดปรับฐาน แนะเข้าซื้อหุ้นที่ราคาตกหนัก โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และ ท่องเที่ยว
นอกจากนี้หุ้นพลังงานจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง เนื่องจากนโยบายเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกลอาจไม่ถูกนำมาใช้งาน ชอบหุ้น PTTEP และ OR และคาดการณ์ว่า PTTGC จะฟื้นตัว รวมถึงหุ้นที่แนะนำก่อนหน้านี้ ได้แก่ SCB, BBL, CPALL, ADVANC, AP,MINT, BDMS, OR, SISB และ MENA