ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2566 นายรุจน์ทัย (สงวนนามสกุล) ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด (จำเลยที่ 1) กับพวกรวม 5 คน ประกอบด้วย นางสาวยศบวร อำมฤต จำเลยที่ 2, นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ จำเลยที่ 3, นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ จำเลยที่ 4 และ นางสาวณัฐดุลภรณ์ กิติกรพาณิชย์ จำเลยที่ 5 ต่อศาลอาญาพระโขนง คดีหมายเลขดำที่ อ.2433/2566 ในข้อหาหรือฐานความผิด พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 30 ส.ค. 2566 เวลา 16.30 น.
เนื้อหาคำฟ้องระบุว่าช่วงกลางวันของวันที่ 17 มิ.ย.2564 บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด (จำเลยที่ 1) ที่มีนางสาวยศบวร (จำเลยที่ 2) และนายศรัทธา (จำเลยที่ 3) เป็นกรรมการผู้มีอานาจ โดยจำเลยทั้ง 5 ได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมาย กล่าวคือจำเลยทั้ง 5 ได้ร่วมกันสั่งจ่ายและส่งมอบเช็คล่วงหน้า ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK (สาขาแม็กซ์แวลู พัฒนาการ) เลขที่เช็ค 22422395 ลงวันที่ 1 มิ.ย. 2566 จำนวน 30 ล้านบาท โดยมีนายวนรัชต์ (จำเลยที่ 4) และ นางสาวณัฐดุลภรณ์ (จำเลยที่ 5) เป็นผู้ลงลายมือชื่อในการสั่งจ่ายเช็คและส่งมอบเช็คดังกล่าวให้แก่โจทก์ เพื่อชำระคืนค่าหุ้นกู้ ซึ่งจำเลยทั้ง 5 ได้รับจากโจทก์ผ่านการออกหุ้นกู้ชนิดไม่ด้อยสิทธิ จำนวน 30 ล้านบาท โดยเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและสามารถบังคับได้ตามกฎหมาย
ทั้งนี้เมื่อถึงกำหนดการจ่ายเงินเพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้ (ชำระคืนหนี้) โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินตามวิธีของธนาคารผ่านบัญชี ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB สาขาโรงพยาบาลวิภาวดี ของโจทก์ แต่ถูกปฏิเสธการจ่ายเช็ค เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2566 โดยให้เหตุผลว่า “ลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่ให้ไว้กับธนาคาร” พร้อมทั้งคืนเช็คและใบคืนเช็คให้กับโจทก์
การกระทำของจำเลยทั้ง 5 จึงเป็นการร่วมกันออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย แต่มีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
เมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงทราบการกระทำผิดของจำเลยทั้ง 5 และได้ทวงถามเพื่อให้ชำระหนี้ตามเช็คแล้ว อย่างไรก็ดีจำเลยทั้ง 5 เพิกเฉยไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ การกระทำของจำเลยทั้ง 5 ส่งผลให้โจทก์ได้รับความเสียหายจากการไม่ได้รับชำระเงินตามเช็คดังกล่าว โดยก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์มิได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากประสงค์ที่จะเป็นผู้ดำเนินคดีเอง
สำหรับหนี้หุ้นกู้ 30 ล้านบาทของบริษัท อดิสรสงขลา จำกัด ที่มีการฟ้องร้องในคดีดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิที่เสนอขายทั้งหมด 175 ล้านบาท มีอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.75% ต่อปี และมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอเชีย เวลท์ จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีการสั่งจ่ายเช็คดังกล่าว เป็นการสั่งจ่ายล่วงหน้า แต่เนื่องจาก “อดิสรสงขลา” เป็นบริษัทจำกัดทั่วไปและอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ แม้ว่าเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แต่มีความจำเป็นต้องให้เจ้าของกิจการเป็นผู้ค้ำประกันการออกหุ้นกู้ ตลอดจนเป็นผู้รับมอบอำนาจในการสั่งจ่ายเช็ค
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบตามเอกสารแนบท้ายคำฟ้อง ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับการออกตราสารหนี้ ลงวันที่ 17 มิ.ย.2564 ปรากฏชัดว่านายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ และนางสาวณัฐดุลภรณ์ กิติกรพาณิชย์ เลขานุการนายวนรัชต์ ลงนามเป็นผู้รับมอบอำนาจ/ผู้สั่งจ่ายเช็คดังกล่าว
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น บ่งชี้ให้เห็นว่านายวนรัชต์ มีส่วนร่วมรับรู้การดำเนินการของ “อดิสรสงขลา” ซึ่งเป็นกิจการในเครือของ STARK และเป็นบริษัทที่มีส่วนร่วมในการทำธุรกรรมอำพรางเพื่อหมุนเวียนเงิน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. กล่าวโทษและอายัดทรัพย์สิน ซึ่งย้อนแย้งกับคำกล่าวอ้างของนายวนรัชต์ที่ก่อนหน้านี้ระบุว่า ตนเองไม่มีส่วนรู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับความผิดปกติใน STARK และบริษัทในเครือ เพราะตนเป็นเพียงผู้ถือหุ้นใหญ่เท่านั้น