ETL จ่อขาย IPO 128.76 ล้านหุ้น เข้าตลาด mai

19 เม.ย. 2566 | 05:46 น.

‘บมจ.ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์’ หรือ ETL ยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต. จ่อขาย IPO 128.76 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ

นางสาวกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 128.76 ล้านหุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ 

นางสาวกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)

ปัจจุบัน ETL มีทุนจดทะเบียน 238.44 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 476.89 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้วทั้งสิ้น  174.06 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 348.13 ล้านหุ้นและจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 128.76 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นไม่เกิน 27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้ว หลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต

บริษัท เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์สัญชาติไทยที่ประกอบธุรกิจหลักได้แก่บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Transportation Carrier) ครบวงจร และถือเป็นบริษัทย่อยและเป็นบริษัทเดียว ในการดำเนินธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนของกลุ่มบมจ. ไวส์ โลจิสติกส์ หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร

สำหรับเส้นทางการให้บริการของกลุ่มบริษัทฯ เริ่มต้นด้วยให้บริการขนส่งในประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศไทย ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา ลาว และพม่า และได้พัฒนาการให้บริการขนส่งเข้าสู่ประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศดังกล่าวเพิ่มเติม เช่น การขนส่งข้ามพรมแดนไปยังสิงคโปร์ผ่านมาเลเซีย การขนส่งไปยังเวียดนามผ่านลาว และการขนส่งไปยังจีนผ่านเวียดนาม

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีเส้นทางการขนส่งที่ครอบคลุมเส้นทางระหว่างประเทศต่างๆ ในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศจีน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย พม่า กัมพูชา ลาว เวียดนาม จีน เขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง รวมถึงมีแผนที่จะขยายเส้นทางการให้บริการขนส่งไปยังประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชียและยุโรป ด้วยการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบทั้งการขนส่งทางรถ และทางรถไฟ

ทั้งนี้ การให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ (Cross Border Transportation Service) ของกลุ่มบริษัทฯ มี 2 รูปแบบ ได้แก่

  1. การขนส่งสินค้าแบบเต็มตู้ (Full Truck Load: FTL) การให้บริการขนส่งสินค้าแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์ หรือเหมาทั้งตู้คอนเทนเนอร์ โดยสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์จะเป็นของผู้ส่งหรือลูกค้าเพียงรายเดียว ซึ่งบริษัทฯ จะให้บริการแบบ Door to Door โดยจะนำรถบรรทุกพร้อมตู้คอนเทนเนอร์ไปรับสินค้าจากโรงงานหรือคลังสินค้าของผู้ส่งสินค้า (Shipper) และส่งไปยัง โรงงานหรือคลังสินค้าของผู้รับสินค้า (Consignee)
  2. การขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (Less than Truck Load: LTL) การให้บริการขนส่งสินค้าที่สินค้าในตู้คอนเทนเนอร์จะเป็นของลูกค้ามากกว่า 1 รายแบ่งใช้พื้นที่ร่วมกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีปริมาณขนส่งไม่มากพอที่จะเช่าตู้คอนเทนเนอร์ทั้งตู้ เพื่อบรรจุสินค้าเฉพาะของตนเอง โดยสินค้าจะถูกนำมาส่งยังจุดรวมสินค้า(Hub)ของบริษัทฯ จากนั้นบริษัทฯ มีทำหน้าที่รวบรวมสินค้า คำนวณพื้นที่ในการจัดวางและจัดทำแผนงาน (Consolidation Plan) จากนั้นจึงขนส่งสินค้าไปส่งยังจุดรวมสินค้า (Hub) ปลายทางของบริษัทฯ ตามตารางเวลาการขนส่งที่บริษัทฯ กำหนด 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 บริษัทฯได้ศึกษาและพัฒนาการให้บริการขนส่งรูปแบบใหม่เพิ่มเติม เพื่อบูรณาการการขนส่งทางถนนเข้ากับการขนส่งทางรางรถไฟ (Road-Rail Transportation) ประเทศจีน-ประเทศลาว โดยได้เปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายการให้บริการขนส่งด้วยรางรถไฟที่สามารถเชื่อมต่อจากจีนไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป ภายใต้ โครงการ One Belt, One Road (OBOR) ของประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางที่จะช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตามแนวเส้นทาง และคาดว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากแผน OBOR ได้มีบทบาทสำคัญในการช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดด้านปัญหาโลจิสติกส์ระหว่างประเทศผ่านความร่วมมือกันของนานาประเทศ