ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,105.25 จุด เพิ่มขึ้น 75.14 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,948.72 จุด เพิ่มขึ้น 11.75 จุด หรือ +0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,787.40 จุด เพิ่มขึ้น 117.44 จุด หรือ +1.01%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น หลังจากนางเยเลนแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการจัดสรรงบประมาณของสภาคองเกรสว่า กระทรวงการคลังมีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า เงินฝากธนาคารของชาวอเมริกันจะยังคงปลอดภัย ในช่วงเวลาที่ภาคธนาคารสหรัฐเผชิญภาวะปั่นป่วน
"เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการคลังสหรัฐได้ใช้เครื่องมือที่สำคัญในการรับมือกับวิกฤตการณ์อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤการณ์นี้ลุกลามบานปลาย เราจะนำเครื่องมือนี้มาใช้อีกครั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเงินฝากของชาวอเมริกันจะปลอดภัย และแน่นอนว่าเรามีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมหากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น" นางเยลเลนกล่าว
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลดลง และเฟดส่งสัญญาณยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ซึ่งมีการเปิดเผยในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.8% ในปี 2567 และ 1.2% ในปี 2568
ทั้งนี้ หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.16% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.97% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 2.24% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ทะยานขึ้น 9.01% หุ้นอินวิเดียพุ่งขึ้น 2.73%
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธนาคารยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร โดยดัชนี S&P500 banking index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารที่คำนวณใน S&P500 และดัชนี KBW regional banking index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาค ร่วงลง 1.2% และ 3% ตามลำดับ
หุ้นคอยน์เบส ดิ่งลง 14.1% หลังมีรายงานว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ส่งหนังสือเตือนถึงคอยน์เบส โดยระบุว่าคอยน์เบสอาจทำการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการรายงานล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 191,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 198,000 ราย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 1.1% สู่ระดับ 640,000 ยูนิตในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2565 จากระดับ 633,000 ยูนิตในเดือนม.ค. แต่เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 19.0% ในเดือนก.พ.