ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้าพุ่งแรง บวกกว่า 37.98 จุด

ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าวันนี้ (15 มี.ค. 66) ปิดภาคเช้าที่ 1,561.87 จุด ปรับตัวขึ้น 37.98 จุด (2.49%) มูลค่าการซื้อขายกว่า 39,476.31 ล้านบาท โดยการซื้อขายในช่วงเช้านี้ ดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวก ดัชนีปรับขึ้นจุดสูงสุดที่ 1,565.71 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,543.61 จุด 

ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทย รีบาวด์ จากแรงหนุนเงินเฟ้อของสหรัฐที่ประกาศออกมาตามที่คาดไว้ ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ของไทยมีความเสี่ยงรับผลกระทบวิกฤติ Silicon Valley Bank (SVB) ล่มในระดับต่ำ

5 อันดับหลักทรัพย์ซื้อขายสูงสุด

AOT ปิดที่ 70.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,017.44 ล้านบาท

KBANK ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,787.44 ล้านบาท

PRTR ปิดที่ 9.15 บาท เพิ่มขึ้น 1.95 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,448.80 ล้านบาท

CPALL ปิดที่ 61.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,235.23 ล้านบาท

BDMS ปิดที่ 28.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,209.40 ล้านบาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้ารีบาวด์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของสหรัฐออกมาที่ 6% ตามที่ตลาดคาดการณ์ และภาวะความเสี่ยงระบบธนาคารของไทยที่จะได้รับผลกระทบจากวิกฤติ SVB ล่มอยู่ในระดับต่ำ

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีน่าจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกได้หลังขึ้นทะลุแนวต้าน 1,550 จุดมาได้แล้ว ทำให้ 1,550 จุดจะกลายมาเป็นแนวรับ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,570 จุด

โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาได้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ (Big Cap) หนุนดัชนีพลิกกลับขึ้นไปสู่ระดับ 1,560 จุดได้อีกครั้ง แต่ยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าคาดหวังเฟดลดโทนลง ส่วนใหญ่ให้น้ำหนักเฟดขึ้นดอกเบี้ยแค่ 0.25% จนถึงคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะส่งผลดีต่อตลาด