น้องใหม่ “บล.บลูเบลล์” เปิดตัวปีแรก ขายหุ้นกู้แตะ 5.5 พันล้านบาท

18 ม.ค. 2566 | 06:27 น.

“บล.บลูเบลล์” เปิดตัวปีแรก 2565 ขายหุ้นกู้รวมกว่า 5,500 ล้านบาท ฟันกำไรตั้งแต่เดือนแรกของการประกอบธุรกิจ ตั้งเป้าปี 2566 ขายหุ้นกู้ 15,000 ล้านบาท เน้นตราสารหนี้คุณภาพ

เปิดตัวได้อย่างร้อนแรงในการดำเนินกิจการปี 2565 ที่ผ่านมาที่เป็นบริษัทหลักทรัพย์ น้องใหม่ อย่าง บลูเบลล์ (BlueBell) ที่สามารถขายหุ้นกู้รวมกว่า 5.5 พันล้านบาท ในปีเดียว

 

นางสาวนริสรา ชัยวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด หรือ BlueBell

เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ว่า ทาง BlueBell มีเป้าหมายที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าในการขายหุ้นกู้ไว้ที่ 15,000 ล้านบาท หรือ เติบโตเป็น 3 เท่าของปี 2565 หวังติดอันดับ 1 ใน 10 ของบริษัทหลักทรัพย์ซื้อขายหุ้นกู้ 

 

ซึ่งแม้ว่าจะเป็นบริษัทหลักทรัพย์น้องใหม่ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จากกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 และได้รับอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ให้เริ่มประกอบธุรกิจ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 

 

ทั้งนี้ที่ผ่านมาในปี 2565 บริษัทความสำเร็จในการจำหน่ายหุ้นกู้ได้ตั้งแต่ดีลแรก คือ “หุ้นกู้ของบริษัท ไทยแอร์เชียจำกัด” (TAA) กว่า 700 ล้านบาท และในปัจจุบัน มีการเปิดเสนอขายดีลหุ้นกู้ไปแล้วรวม 23 ดีล ใน 34 รุ่น เป็นยอดจัดจำหน่ายหุ้นกู้มูลค่า 5,550.30 ล้านบาท ทำให้บริษัทเติบโตและมีกำไรตั้งแต่เดือนแรก

 

ภาพการแถลงข่าว “บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด”

ขณะที่ในปี 2566 นี้ บริษัทมีแผนขยายอีก 4 ผลิตภัณฑ์

 

บริการหุ้นกู้ดิจิทัล (Digital Bond) 

ผลิตภัณฑ์กองทุนรวม (ตั้งเป้า 8,000  ล้านบาท)

บริการตราสารหนี้ตลาดรอง 

ผลิตภัณฑ์คราวด์ฟันดิง 

 

โดยมีเป้าหมายที่จะขยายฐานในการเข้าถึงลูกค้าให้ตรงเป้าหมาย มุ่งเน้นการทำงานในการพิจารณาออกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสู่ตลาด ใน 2 มิติ ได้แก่ มิติความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสาร และ มิติของความน่าลงทุนของหุ้นกู้เมื่อเทียบกับหุ้นกู้ตัวอื่นในตลาด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถตอบโจทย์ด้านผลตอบแทนของนักลงทุนได้อย่างยั่งยืนและเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของตลาดทุน ควบคู่กับดูแลลูกค้าแบบพรีเมียมแก่ลูกค้าในทุกระดับ 

 

นอกจากนี้จะเร่งพัฒนาระบบธุรกรรมหุ้นกู้ออนไลน์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อต่อยอดในการให้บริการและตอบโจทย์นักลงทุนในยุคดิจิทัลที่ต้องการความง่าย รวดเร็ว และสะดวกสบาย