"บีซีพีจี" ฮุบเอเชียลิงค์ เทอมินัล ทุ่ม 9 พันล้านผงาดธุรกิจพลังงาน

วันที่ 3 ม.ค. 66 บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เรื่องการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท เอเชียลิงค์ เทอมินัล จำกัด เพื่อการเข้าลงทุนในโครงการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือ

ทั้งนี้ บีซีพีจี ลงทุนซื้อหุ้นทั้งหมดในเอเชียลิงค์ เทอมินัลฯ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท แพนเอเชีย สตอเรจแอนด์เทอร์มินัล จำกัด จำนวน 40,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วน 100% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 9,000 ล้านบาท 

บีซีพีจี เล็งเห็นว่าบริษัทเป้าหมายซึ่งดำเนินธุรกิจคลังจัดเก็บน้ำมันและท่าเทียบเรือที่จังหวัดเพชรบุรี เป็นโครงการสาธารณูปโภคเกี่ยวเนื่องกับพลังงาน ที่สามารถสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) ตามแผนการดำเนินธุรกิจและแผนการลงทุนของบริษัทฯ รวมทั้งสามารถต่อยอดเพื่อรองรับธุรกิจอื่นๆ ในอนาคต

โดยเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2565 บริษัทฯ ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น เพื่อเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในเอเชียลิงค์ เทอมินัลฯ 

อย่างไรก็ดี บีซีพีจี คาดว่าธุรกรรมการซื้อหุ้นจะสำเร็จลุล่วง (Completion) ประมาณเดือนมีนาคม 2566 โดยขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการดำเนินการตามข้อกำหนดเงื่อนไขบังคับก่อน (Conditions Precedent) อย่างครบถ้วนหรือได้รับการผ่อนผันจากคู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง 

สำหรับการเข้าทำรายการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ.2547 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) (รวมเรียกว่า "เกณฑ์การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ฯ") 

โดยมีขนาดรายการสูงสุดเท่ากับ 15.62% ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ซึ่งคำนวณจากมูลค่าเงินลงทุนเทียบกับสินทรัพย์รวมของบริษัท ฯ ตามงบการเงินรวม สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 โดยเมื่อคำนวณรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์รายการอื่นของบริษัท ฯ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทำให้รายการได้มาซึ่งสินทรัพย์มีขนาดรายการรวมสูงสุดเท่ากับ 18.43% โดยถือเป็นรายการประเภทที่ 2 ที่มีขนาดรายการเท่ากับ 15% หรือสูงกว่าแต่ต่ำกว่า 50% ตามเกณฑ์การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ฯ